วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นโยบายการศึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)

สรุปนโยบายการศึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(นายจาตุรนต์ ฉายแสง)
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ (โดยประเมิน บุญเสนา สพป.ชย.1)
๑. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบให้สัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา และเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องโดยปฏิรูปให้มีความเชื่อมโยงกันทั้งหลักสูตรและการเรียนการสอน ให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและสอดคล้องกับการเรียนรู้ยุคใหม่ การพัฒนาครู และการพัฒนาระบบการทดสอบ การวัดและประเมินผลที่ได้มาตรฐานและเชื่อมโยงกับหลักสูตรและการเรียนการสอน และการพัฒนาผู้เรียน
๒. ปฏิรูประบบผลิตและพัฒนาครู ให้มีจำนวนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการ มีความรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปัจจุบัน รองรับหลักสูตรใหม่ และการเรียนรู้ในโลกยุคใหม่ รวมทั้งพัฒนาระบบประเมินวิทยฐานะครูให้เชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ดูแลระบบสวัสดิการและลดปัญหาที่บั่นทอนขวัญ กำลังใจของครู ให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนการสอนและคุณภาพผู้เรียน
๓. เร่งนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้ในการปฏิรูปการเรียนรู้ สร้างมาตรฐานการเรียนการสอนด้วยคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต)และพัฒนาเนื้อหาสาระ พัฒนาครู และการวัด ประเมินผลที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งเพื่อเป็นเครื่องมือให้เกิดระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตในสังคมไทย
๔. พัฒนาคุณภาพการอาชีวศึกษาให้มีมาตรฐานเทียบได้กับระดับสากล ให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการใช้กรอบคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เพื่อมาใช้กำหนดทักษะ ความรู้
ความสามารถที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ ทำให้มีงานทำ มีความก้าวหน้าและได้รับค่าตอบแทนตามสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น โดยไม่ขึ้นกับวุฒิการศึกษาเท่านั้น
๕. ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาเร่งพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานมากกว่าการขยายเชิงปริมาณ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีโดยให้มีการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาของไทย เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน และจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก(World Class University)ให้มากขึ้น
๖. ส่งเสริมให้เอกชนและทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมจัดและสนับสนุนการศึกษามากขึ้น สนับสนุนระบบความร่วมมือแบบเป็นหุ้นส่วนทางการศึกษารัฐและเอกชน (Public Private Partnerships) ตลอดจนเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร เป็นวิทยากร สนับสนุนการฝึกงาน และเรียนรู้
๗. เพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
๘. พัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการสนับสนุนและพัฒนาการศึกษาและสถานศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ สังคม อัตลักษณ์ และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นให้มากขึ้นโดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การสร้างขวัญ กำลังใจให้กับนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สรุปวาระสำคัญในการประชุมคณะกรรมการกลุ่มโรงเรียนศรีราชา 1


จากการประชุมกรรมการกลุ่มโรงเรียนศรีราชา 1   เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2556 ที่โรงเรียนบริษัทไทยกสิกรสงเคราะห์ มีวาระสำคัญที่ พอสรุปได้ดังนี้

เรื่องที่ 1 การจัดงานมหกรรมการศึกษาสู่สาธารณชน และการแข่งขันทักษะทางวิชาการ ประจำปี 2556 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา

วันที่ 12 กันยายน 2556

          เวลา 09.00 น. พิธีเปิดงาน (ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์) มอบรางวัลหนึ่งแสนครูดี ปี 2555 (ตึกวัชรามโภช)

ภาคบ่าย อาจใช้สถานที่แข่งขันกลุ่มสาระฯศิลปศึกษา

นิทรรศการ แสดงศักยภาพ ตามจุดเน้นดังนี้ (ใช้สถานที่สนามฟุตบอลสิรินธร)

โรงเรียนปฐมวัย                     โรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ

โรงเรียนส่งเสริมอาชีพ               โรงเรียนบ้านทุ่งกราด

โรงเรียนพอเพียง                    โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต

โรงเรียนดีเด่นเทคโนโลยี             โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน

โรงเรียนอาเซียน                              โรงเรียนชุมชนบ้านบางเสร่

โรงเรียนศูนย์ภาษาอังกฤษ          โรงเรียนวัดรังษีสุทธาวาส

โรงเรียนเด็กพิเศษ                   โรงเรียนบ้านนาพร้าว

โรงเรียนดีประจำตำบล              โรงเรียนวัดมโนรม

โรงเรียนสุจริต                       โรงเรียนวัดบุญสัมพันธ์

โรงเรียนดีเด่นคณิตศาสตร์          โรงเรียนบ้านอำเภอ

โรงเรียนดีเด่นวิทยาศาสตร์          โรงเรียนบ้านสัตหีบ

เวทีแสดงศักยภาพนักเรียน(จัดวันเดียว)   อาจใช้สถานที่ตึกมงฟอร์ด   ส่วนโรงเรียนเอกชนแยกจัดอีกหนึ่งเวที สำนักงานเขตพื้นที่ ฯ จะส่งรายละเอียดให้โรงเรียนก่อน แล้วติดต่อโดยตรงที่    ศน.สุขสันต์,ศน.กรุณา,ศน.สายสุนีย์,ศน.สุทธิมาศ
          การสัมมนาทางวิชาการ

สำหรับ ผู้บริหารโรงเรียน  ที่ใช้ตึกอัสสัมชัญ เน้น ว.5 หรืออื่นๆ ที่น่าสนใจ

สำหรับ ครูผู้สอน   ใช้อาคารตึกโอเซ่ เน้นเรื่อง PBL ผู้ประสานงาน ศน.ประสพ ศน.เตือนใจ และ ศน.พัชรา

นิทรรศการของโรงเรียน จัดที่บริเวณ ลานข้างสนามสิรินธร จองได้ที่ฝ่ายสถานที่ ขนาดตามความพอใจ ผู้ประสานงาน ศน.อรพงษ์ ศน.ธนกร (ค่าเต้นอาจมีค่าใช้จ่าย) ติดต่อผู้ประสานงานโดยตรง ไม่ผ่านกลุ่ม

วันที่ 13 กันยายน 2556

          พิธีเปิดการแข่งขันทางวิชาการ (ดร.บัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาฯสช.)    ที่ตึกวัชรสมโภช

การส่งรายการร่วมแข่งขัน  กรอกส่งทางเว็บไซด์ งานศิลปหัตถกรรม ตาม User name และ Password ที่กลุ่ม ศน.ส่งให้โรงเรียน ระหว่างวันที่ 6-13 สิงหาคม 2556

เจ้าภาพจัดการแข่งขันทางวิชาการประกอบด้วย

          สาระภาษาไทย ร.ร.บริษัทไทยกสิกร บ้านหนองเกตุน้อย ร.ร.เลิศปัญญา ศน.ศรีวิน

          สาระคณิตศาสตร์          โรงเรียนชุมชนบ้านบางเสร่  โรงเรียนบ้านอำเภอ  โรงเรียนดาราสมุทร ศน.ษมาพร

          สาระวิทยาศาสตร์    โรงเรียนวัดมโนรม โรงเรียนบ้านขลอด โรงเรียนดาราสมุทร ศน.มุกดา ศน.สุทธิมาศ

          สาระสังคมศึกษา   โรงเรียนวัดโป่ง โรงเรียนบ้านเตาถ่าน โรงเรียนเซนต์ปอล ศน.ฉวีวรรณ ศน.ประสพ

          สาระสุขศึกษาพลศึกษา   โรงเรียนบ้านห้วยกุ่ม โรงเรียนบ้านเขาไม้แก้ว โรงเรียนพัทยาอรุโณทัย ศน.ธนกร

          สาระศิลปศึกษา โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน โรงเรียนวัดสุทธาวาส โรงเรียนักษรศึกษา โรงเรียนธัมมสิริ ศน.กรุณา

          สาระการงานฯ โรงเรียนบ้านทุ่งคา โรงเรียนบ้านบ่อวิน โรงเรียนตันตรารักษ์ ศน.เตือนใจ

          สาระเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน โรงเรียนบุญจิตวิทยา ศน.ธนกฤตย์ ศน.ภาวิตา

          สาระภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดรังษีสุทธาวาส โรงเรียนบ้านสัตหีบโรงเรียนศรีสุวิช ศน.สายสุนีย์

          กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนบ้านเขาคันทรง โรงเรียนบ้านตะเคียนเตี้ย โรงเรียนสัตหีบ ศน.ศรีไพร

          ปฐมวัย โรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ โรงเรียนดวงมณี ศน.พัชรา

          เด็กพิเศษเรียนร่วม โรงเรียนวัดนาพร้าว โรงเรียนวัดเขาบายศรี ศน.สุทธิมาศ ศน.มุกดา

วันที่ 14 กันยายน 2556

          ประกวดแข่งขันทางวิชาการ และปิดงาน

เรื่องที่ 2  โครงการอบรมพัฒนาด้านวินัย และมาตรฐานวิชาชีพ
          วันที่ 30 สิงหาคม 2556 ณ ห้องประชุมใหญ่เทศบาลนครแหลมฉบัง  งานนี้ให้ครูและบุคลากรทุกคนร่วมอบรมยกเว้นนักการภารโรงและพนักงานบริการ


เรื่องที่ 3 การแข่งขันกีฬากลุ่มโรงเรียนศรีราชา 1

          1.กำหนดให้มีการแข่งขันกีฬากีฬาในวันที่ 30 กันยายน – 4 ตุลาคม 2556 และแข่งขัน กรีฑา ในวันที่ 9-10 ตุลาคม 2556

          2. กำหนดให้จัดประชุมครูพลศึกษา ประชุมเพื่อปรึกษารายละเอียดการแข่งขัน ในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมน้อมศิลป์ โรงเรียนวัดมโนรม  เพื่อกำหนดประเภทกีฬาและกรีฑา และรายละเอียดการแข่งขันอื่น ๆ เช่นสนามกลางของกีฬาแต่ละประเภท  เป็นต้น

          วาระใดเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับงานของแต่ละท่านจะได้รับทราบและเตรียมการอื่นๆ ไว้ได้เลย ไม่ต้องรอให้สั่งการ เวลาประชุมใหญ่จะได้ใช้เวลาน้อยหน่อย ท่านใดอ่านแล้วก็บอกต่อเพื่อน ๆในโรงเรียนด้วยนะครับ อยากจะลดกระดาษและลดเวลาในการประชุมด้วยครับ ..สวัสดี

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การละเมิดสิทธิเด็ก


เรียน เพื่อนครูที่เคารพ

ช่วงนี้มีข่าวสารนักเรียนถูกละเมิดสิทธิเด็ก โดยบุคคลในครอบครัว บุคคลในสถานศึกษา  นักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน โดยเพื่อน หรือรุ่นพี่ในโรงเรียน โดยรูปแบบข่มขู่เรียกเงิน ทำร้าย รังแก  หรือการละเมิดทางเพศ และเป็นข่าวปรากฏใน Social Network
          จึงขอให้คุณครูทุกท่านได้เอาใจใส่ดูแลนักเรียนทุกคนเป็นกรณีพิเศษ เช่นหมั่นสังเกตนักเรียนที่ถูกทำร้าย มักจะมีพฤติกรรมซึมเศร้า ขาดเรียน ไม่กล้าบอกเหตุผลการขาดเรียนเพราะถูกข่มขู่ เป็นต้น ส่วนนักเรียนอีกประเภทหนึ่งที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ขาดเรียนบ่อย ติดเกม มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติด พกเงินมากผิดปกติ ซึ่งพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ อาจมีแรงจูงใจให้ทำความผิดต่อเพื่อนๆ ในโรงเรียน จึงขอเสนอแนะและขอความร่วมมือคุณครูทุกท่าน ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยดำเนินการดังนี้

1.       ครูควรสร้างข้อตกลงการอยู่ร่วมกันของนักเรียนในเรื่องความรัก ความเมตตา ความสามัคคี

2.       ครูควรให้ความใกล้ชิดกับนักเรียน เพื่อสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เมื่อนักเรียนมีปัญหาจะได้กล้าที่จะบอกล่าเพื่อขอคำปรึกษา

3.       สังเกตนักเรียนที่มีพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกให้เห็นถึงความผิดปกติต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุให้รู้ชัดและหาทางแก้ไข ช่วยเหลือ ได้ทันเวลา

4.       กรณีที่เด็กขาดเรียนครูควรหาข้อมูลของการขาดเรียนทุกครั้ง

5.       ครูประจำชั้นควรให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองนักเรียนทุกคน และครูควรแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้ปกครองนักเรียนสามารถติดต่อครูได้

6.       ครูควรตรวจตราดูแลสถานศึกษาที่เป็นมุมหลบตา ตลอดจนการตรวจตราดูแลห้องเรียน ห้องพิเศษต่าง ๆ ที่นักเรียนสามารถหลบซ่อนในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน ช่วงพักกลางวัน

7.       คุณครูทุกท่านควรมีความรู้เกี่ยวกับพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551

เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่างๆ กับนักเรียน จึงขอความร่วมมือคุณครูทุกท่านได้ให้ความสำคัญกับนักเรียนทุกคน หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นกับนักเรียนของเราทุกคนตลอดไป........สวัสดีครับ

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แนวปฏิบัติของนักเรียน


<<<แนวปฏิบัติของนักเรียน>>>

แนวปฏิบัติสำหรับนักเรียน

(STUDENT CODE OF   CONDUCT)

      แนวปฏิบัติสำหรับนักเรียนต่อโรงเรียนวัดมโนรม

      เพื่อให้การประพฤติปฏิบัติตนของนักเรียนในโรงเรียน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย   อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ก่อให้เกิดการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรมอันดีงาม  ส่งผลให้การเรียนการสอนในโรงเรียน บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร  ทางโรงเรียนจึงได้กำหนดแนวปฏิบัติสำหรับ นักเรียนโรงเรียนวัดมโนรม

      ดังต่อไปนี้

      1. นักเรียนต้องทราบกฎระเบียบ ข้อบังคับ  แนวปฏิบัติของทางโรงเรียนและประพฤติตน อย่างเคร่งครัด

      2. นักเรียนต้องสนับสนุนนโยบายของโรงเรียน ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียน    ตั้งใจศึกษา เล่าเรียน ทั้งรักษาระเบียบวินัยและมติของคณะครู  เพื่อให้เกิดผลดี เกิดความก้าวหน้า แก่ตนเองและโรงเรียนด้วยความอุตสาหะ

      3. นักเรียนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของครู ซึ่งชอบด้วยกฎหมาย หรือระเบียบห้ามมิ ให้ขัดขืน
หรือหลีกเลี่ยง

      4. นักเรียนต้องแต่งกายสุภาพสะอาด เรียบร้อยถูกต้องเหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียนที่ดี

      5. นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนให้ตรงต่อเวลา  รับผิดชอบต่อหน้าที่ในการมาโรงเรียน การเข้าเรียน  ตลอดจนเอาใจใส่ต่อการเรียนด้วยความวิริยะอุตสาหะ

      6.นักเรียนต้องหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่เป็นอบายมุขและสิ่งเสพย์ติดทุกประเภทอย่างเด็ดขาด

      7. เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมและช่วยเหลือการงานของโรงเรียน บิดามารดา  ผู้ปกครอง ตามความสามารถด้วยความเต็มใจ

      8. นักเรียนต้องช่วยกันดูแล บำรุงรักษาทรัพย์สินของโรงเรียนและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เสมือน หนึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของตนเอง ตลอดจนแนะนำบุคคลอื่น ให้ปฏิบัติตามด้วย

      9. นักเรียนต้องไม่พูดส่งเสียงหรือกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความรำคาญหรือรบกวนผู้อื่น ทั้งในห้องเรียน นอกห้องเรียนหรือชุมชน

      10. นักเรียนช่วยกันดูแลบำรุงรักษาอนุรักษ์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก โรงเรียนให้มีบรรยากาศที่ ดีอยู่เสมอ

      11. นักเรียนต้องช่วยกันสอดส่องดูแลด้านความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยทั้งในและนอกห้องเรียน

      12. นักเรียนต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต

      แนวปฏิบัติสำหรับนักเรียนต่อเพื่อนนักเรียน

      1. มีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ

      2. มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อเพื่อน

      3. มีความสุภาพเรียบร้อยอ่อนน้อมถ่อมตน

      4. ไม่ติดสารเสพติดไม่ชักชวนเพื่อนไปในทิศทางที่ไม่ดี

      5. ไม่ข่มเหงรังแกเพื่อน

      6. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเพื่อนในด้านต่าง ๆ เช่น การเรียน การกีฬา

      การบำเพ็ญประโยชน์

      7. เป็นผู้มีระเบียบวินัย

      8. เป็นผู้มีความรับผิดชอบ

      9.ให้คำแนะนำเพื่อนในการปฏิบัติตนในทางที่ดีงาม

 

    

 แนวปฏิบัติสำหรับนักเรียนต่อตนเองและครอบครัว

      1. นักเรียนต้องพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีสุขภาพอนามัย แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจอารมณ์ สังคม  มีความกระตือรือร้นในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน

      2. นักเรียนต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของบิดามารดาด้วยความเคารพต่อหน้าและลับหลัง

      3. นักเรียนต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับสภาพของความเป็นนักเรียนที่ดีทั้งในและนอกโรงเรียน

      4. นักเรียนต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีระเบียบวินัยในตนเองและเคารพกฎหมายบ้านเมือง

      5. นักเรียนต้องพัฒนาตนเองให้ทันต่อข่าวสาร และเหตุการณ์บ้านเมืองและของโลก

      6. นักเรียนต้องช่วยเหลือบิดามารดา ผู้ปกครองตามความสามารถและโอกาส

 แนวปฏิบัติสำหรับนักเรียนต่อชุมชน

      1.นักเรียนต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับสภาพของการเป็นนักเรียนที่ดีทั้งในและนอกโรงเรียนเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อบุคคลอื่น

      2.นักเรียนต้องมีมารยาทที่ดีงาม สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตนทั้งกาย วาจา ใจ  ตลอดจนมี สมมาคารวะต่อบุคคลอื่น ตามความเหมาะสม

      3.นักเรียนต้องประพฤติตนตามกฎระเบียบ ของสังคมและกฎหมายบ้านเมือง

      4.นักเรียนต้องประพฤติตนให้เป็นพลเมืองดีของสังคมและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม
และชุมชนของตน

      5.นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีในทุก ๆ ด้านต่อชุมชน

      6.นักเรียนทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรอย่างเคร่งครัดทั้งในและนักโรงเรียน

 

     

แนวปฏิบัติกรณีนักเรียนมาโรงเรียนสาย

      เพื่อให้การปฏิบัติของนักเรียนเป็นแบบอย่างอันเดียวกัน ในกรณีที่นักเรียน   มาโรงเรียนสาย หรือเข้ามาในโรงเรียนช้ากว่าเวลา 08.00 น.

      จึงกำหนดแนวปฏิบัติเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติของนักเรียนดังนี้

      1.“การมาโรงเรียนสายหมายถึง

          1.1 การเข้ามาในบริเวณโรงเรียนช้ากว่าเวลา 08.15 น.

          1.2 การไม่อยู่ร่วมพิธีเคารพธงชาติ โดยได้พิจารณาแล้วเห็นว่า อยู่ในขอบข่าย

      การมาโรงเรียนสาย

      2.ให้มีหลักปฏิบัติในกรณีที่นักเรียนมาโรงเรียนสายดังนี้

          2.1 นักเรียนมาโรงเรียนสายจะต้องขอรับบัตร อนุญาตเข้าชั้นเรียนจากฝ่ายปกครอง

          2.2 นักเรียนนำบัตรอนุญาตเข้าชั้นเรียนไปให้ ที่ปรึกษา ผู้สอน ในเวลานั้น เพื่อ ลงลายมือชื่อเพื่อทราบ และอนุญาตให้นักเรียนเข้าชั้นเรียนได้

          2.3 ภายหลังเลิกเรียนคาบสุดท้ายให้นักเรียนนำบัตรเข้าชั้นเรียนไปส่งคีนที่ฝ่ายกิจการ

      นักเรียน เพื่อจะได้พิจารณาโทษตามระเบียบว่าด้วยการมาโรงเรียนสายต่อไป

      3.ให้หัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัตินี้

      แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการลาของนักเรียน

      1.ทุกครั้งที่นักเรียนไม่มาโรงเรียน จะต้องมีใบลาจากผู้ปกครอง เพื่อแจ้ง ขออนุญาตถึง ที่ปรึกษา  ประจำรายวิชา ทั้งนี้  เพื่อป้องกันการออกจากบ้านแต่ไม่ถึงโรงเรียนแต่กลับบ้านตรงเวลา

      2.ใบลาดังกล่าวต้องลงนามโดยผู้ปกครอง ที่มอบลายมือชื่อตัวอย่างไว้กับโรงเรียน

      3.ต้องใช้ใบลาตามแบบที่โรงเรียนกำหนดไว้เท่านั้น

      4.กรณีที่นักเรียนไม่ส่งใบลาถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง เพราะเป็นการแสดงเจตนา  ที่จะปกปิดไม่ต้องการให้ผู้ปกครองและโรงเรียนทราบ  ดังนั้นโรงเรียนจะลงโทษตามสมควรแล้วแต่กรณี

 

      แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการทำความเคารพของนักเรียน

      เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้ที่มีความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน และอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทย        ทั้งยังเพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม   จึงได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการทำความเคารพของนักเรียนโรงเรียนวัดมโนรม ดังต่อไปนี้

      1.การทำความเคารพครู- เมื่ออยู่ในห้องเรียน หรือห้องพักครู

          1.1 เมื่อครู- เข้าห้องสอนทุกครั้ง ให้หัวหน้านักเรียนหรือตัวแทนบอกทำ ความเคารพ โดยใช้คำว่า นักเรียนเคารพให้นักเรียนในห้องทุกคนยืนตรง   ทำความเคารพด้วยการยกมือไหว้และกล่าวว่า สวัสดีครับ,สวัสดีค่ะพร้อมกันแล้วนั่งลง

          1.2 เมื่อหมดเวลาเรียนครู- กำลังจะออกจากห้องเรียนให้หัวหน้าหรือตัวแทนบอกทำความเคารพ โดยใช้คำว่า นักเรียนเคารพ  ให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้นแล้วยกมือไหว้ พร้อมกับกล่าวคำว่า  ขอบคุณครับ,ขอบคุณค่ะพร้อม ๆ กัน

           1.3 ในกรณีที่ครู- เข้ามาในห้องเรียนแล้ว และนั่งเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว  หรือครูบอกให้หัวหน้าห้องหรือตัวแทนบอกทำความเคารพหลังจาก   หมดเวลาเรียนก่อนที่ครู- จะออกจากห้องแต่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าห้องอยู่  ตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ให้หัวหน้าห้องหรือตัวแทน บอกทำความเคารพ โดยใช้คำว่า  นักเรียนกราบให้นักเรียนทุกคนก้มลงกราบบนหลังโต๊ะเรียนของตนเองด้วยความสุภาพอ่อนน้อม พร้อมกับพูดคำว่า สวัสดีครับ,สวัสดีค่ะ  ในข้อ 1.1 และคำว่า ขอบคุณครับ,ขอบคุณค่ะในกรณีข้อ 1.2

          1.4 เมื่อครู- สนทนาซักถาม หรือพูดคุยกับนักเรียนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ให้นักเรียน      ยืนขึ้นพูดกับครู- ในท่ายืนตรง ถ้ามีข้อสงสัยที่จะถามครู ในขณะที่ครูกำลัง ทำการเรียน       การสอนอยู่ ให้ยกมือขึ้น จะพูดหรือถามได้ หลังจากที่ครูได้อนุญาตแล้วเท่านั้น

      2.การทำความเคารพครู นอกห้องเรียน

          2.1การทำความเคารพขณะที่เข้าแถว ในการเรียนวิชาภาคปฏิบัติ หรือการเข้าแถว   ประกอบกิจกรรมหน้าเสาธงตอนเช้า เมื่อ ผู้สอน หรือ ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการประกอบกิจกรรม หรือให้การอบรมมาถึงบริเวณหน้าแถวให้ประธานผู้นำหรือหัวหน้าห้องสั่ง
นักเรียนคนอื่นทำความเคารพ ด้วยคำว่า
นักเรียนทั้งหมดแถวตรง ทำความเคารพ
นักเรียนทุกคนปฏิบัติยืนในท่าตรงยกมือไหว้และกล่าวทักทายพร้อมกัน เหมือนในข้อ 1.1 และเมื่อหมดคาบ หรือเสร็จสิ้นการอบรม ให้ประธานนักเรียน  ผู้นำหรือหัวหน้าห้อง นำกล่าวขอบคุณ ด้วยคำว่า  นักเรียนทั้งหมดแถวตรง ทำความเคารพนักเรียนทุกคนอยู่ในท่าตรง ยกมือไหว้ และกล่าวขอบคุณเหมือนในข้อ 1.2

          2.2 เมื่อพบหรือเดินสวนทางกับครู-  ให้นักเรียนแสดงความเคารพโดยการหยุด ยืนตรง ยกมือไหว้ด้วยอาการสำรวม ถ้าเป็นการพบกันครั้งแรกให้กล่าวทักทาย ด้วยคำว่า สวัสดี…….(ครับ/ค่ะ) ถ้านักเรียนถือสิ่งของอยู่ให้วางสิ่งของก่อนแต่ถ้าไม่สะดวกในการที่จะวาง ให้หยุดยืนตรงแล้วโค้งคำนับด้วยอาการสำรวม

          2.3 ถ้ามีกิจเร่งรีบจะเร่งแซงขึ้นหน้าครู- หรือผู้ใหญ่ที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้า ให้นักเรียนกล่าวคำว่า ขออนุญาต……(ครับ/ค่ะ)  แล้วเดินก้มศีรษะแต่พองามผ่านไปด้วยอาการสำรวม

          2.4 ถ้ามีครู- หรือผู้ใหญ่นั่งหรือยืนอยู่กับที่ ควรเดินเลี่ยงให้ห่างหรือเดินก้มตัวแต่พองามผ่านไป

          2.5 ในกรณีที่มีผู้มาตรวจเยี่ยม มีแขกผู้ใหญ่หรือผู้ที่ควรแก่การเคารพ ให้แสดงความ เคารพเช่นเดียวกับการทำความเคารพครู- ในโรงเรียน

      3. การทำความเคารพครู- นอกบริเวณโรงเรียน เมื่อพบครู นอกบริเวณโรงเรียน ให้แสดงความเคารพโดยการยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวว่า สวัสดีด้วยกิริยาสุภาพอ่อนน้อม

      4.การเข้าพบครู

          4.1 เมื่อจะเข้าพบครู- ให้ยืนตรงแล้วยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวคำว่า ขออนุญาต…..(ครับ/ค่ะ)เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงเดินเข้าไปพบ  หยุดยืนอยู่ห่างจากครู-  พอประมาณ

          4.2 หากกรณีที่พบครู- นั่ง ให้นักเรียนอยู่ในท่าคุกเข่าอยู่ในท่าสำรวม และเมื่อจะกลับออกไปให้แสดงความเคารพด้วยการไหว้ แล้วจึงเดินเข่าถอยหลังออกไป พอประมาณจึงลุกขึ้นเดินกลับ

      4.3 การไหว้ ให้ยืนในท่าตรงยกมือขึ้นประนมระหว่างอก ก้มศีรษะลงปลายนิ้วชี้ทั้งสองจรดระหว่างคิ้ว นักเรียนหญิงให้ย่อตัวลงพองามขณะไหว้การแสดงความเคารพโดยการไหว้ที่สำรวมและสวยงาม เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นผู้เจริญ และเป็นเอกลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนวัดมโนรม

 

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การแก้ไขระเบียบ ศธ.ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549

การแก้ไขระเบียบ ศธ.ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549+โพสต์เมื่อวันที่ : 17 มิ.ย. 2556
.....
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2556 โดยมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
►การแก้ไขระเบียบ ศธ.ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอขอแก้ไขระเบียบ ศธ.ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549 ในส่วนของสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ตามที่ รมว.ศธ.อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวันเปิดและปิดภาคเรียน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนี้
- ภาคเรียนที่ 1 วันเปิดภาคเรียน 16 พฤษภาคม และปิดภาคเรียน 11 ตุลาคม
เปลี่ยนเป็นเปิดภาคเรียน 10 มิถุนายน และปิดภาคเรียน 4 พฤศจิกายน
- ภาคเรียนที่ 2 วันเปิดภาคเรียน 1 พฤศจิกายน และปิดภาคเรียน 1 เมษายนของปีถัดไป
เปลี่ยนเป็นเปิดภาคเรียน 26 พฤศจิกายน และปิดภาคเรียน 26 เมษายน ของปีถัดไป
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เห็นว่าการแก้ไขระเบียบ ศธ.ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชน จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวันเปิดปิดภาคเรียน ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่า สช.ควรเปลี่ยนแปลงวันเปิดและปิดภาคเรียนให้สอดคล้องกับ สพฐ. เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก


ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/jun/185.html

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มาฝึกพูดภาษาอังกฤษกันเถอะ.


เรียนเพื่อนครูที่เคารพรักทุกท่าน

          ในสัปดาห์หน้านี้เริ่มตั้งแต่วันพุธ ที่12 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป และทุกวันพุธ ตลอดปีการศึกษา 2556 นี้  ทางโรงเรียน ได้ติดต่อวิทยากร ชาวอังกฤษ เพี่อมาเสริมทักษะการการสื่อสารให้กับนักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียน  ได้ฝึกทักษะการสื่อสาร โดยเฉพาะการพูดคุยสนทนา   ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อย่างมั่นใจในปี 2558

          จากข้อมูลที่เชื่อถือได้ จัดลำดับประเทศไทยในเรื่องทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ  ปรากฏว่า ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 9 จาก 10 ประเทศอาเซียน   และอยู่อันดับที่ 53 จาก 54 ประเทศ ในโลก  ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ฟังดูแล้วน่าตกใจว่าเป็นไปไดยังไง แต่มันก็เป็นไปแล้ว เห็นทีที่พวกเราทั้งหลาย ในฐานะที่เป็นครูคงต้องช่วยกันพัฒนาตนเองเป็นการใหญ่แล้วคราวนี้   จึงถึงคราวที่ทุกท่านจะได้พัฒนาตนเองในด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ  ให้มีทักษะมากขึ้น แบบเห็นฝรั่งเดินเข้าโรงเรียนแล้ว ไม่ต้องเดินเข้าห้องน้ำ  หรือแนะนำตัวเองเสร็จแล้วรีบเดินหนี เพราะพอจะพูดอะไรต่อก็ฟังสำเนียงเค้าไม่ออก จับคำ จับประโยค ไม่ออก

          ถึงเวลาแล้วนะครับที่จะเวลาฝึกพูดภาษาอังกฤษกันอย่างจริงจัง  จึงขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อม และพบกันทุกวันพุธของสัปดาห์  เวลา 16.00 -17.00 น. ณ ห้องประชุมน้อมศิลป์ ผมเชื่อว่าทุกคนจะพอใจกับครูชาวต่างประเทศ ที่ผมเชิญมาให้ความรู้กับทักษะของเราครั้งนี้ .................สวัสดีครับ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เป้าหมายโรงเรียนวัดมโนรม ตามจุดเน้นที่ 3


สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต3 ได้กำหนดจุดเน้นเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตฯ และสถานศึกษา ไว้ 8 จุดเน้น เพื่อให้โรงเรียนในสังกัดเป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาของโรงเรียนให้สอดคล้องกัน โรงเรียนวัดมโนรม จึงได้กำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานแต่ละจุดเน้น ให้มีเป้าหมายด้านปริมาณ และกำหนดผลงาน ที่เป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จให้กับผู้ปฏิบัติงานใช้เป็นกรอบเป้าหมาย ในการทำงาน สู่ความสำเร็จ ตามจุดเน้นทั้ง 8 ข้อดังนี้

เป้าหมายโรงเรียนวัดมโนรม
 ตามจุดเน้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต3
 
จุดเน้นที่ 3 นักเรียนชั้น ป.3 ทุกคนอ่านออก เขียนได้ คิดเป็น และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อ่านคล่อง เขียนคล่อง และมีทักษะการคิดพื้นฐาน
          3.1 มีกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาการใช้ทักษะภาษาไทยสำหรับครูและนักเรียนทุกระดับ
          เป้าหมาย
          ก) กลุ่มสาระภาษาไทย ดำเนินการร่วมวางแผน /โครงการ และกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาการใช้ทักษะภาษาไทยสำหรับครูและนักเรียนทุกระดับ

          ข) ทุกชั้นเรียนมีคู่มือ และแบบฝึกทักษะการอ่านที่เหมาะสม  โดยมีครูผู้สอนภาษาไทยเป็นผู้ดำเนินการ
3.2 มีกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
          เป้าหมาย
          ก) ครูผู้สอนภาษาไทยทุกกคน มีกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ทุกวัน อย่างน้อย 5-10 นาที เช่น กิจกรรมวางทุกงานอ่านทุกคน
3.3 มีข้อมูลผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง ทั้งรายบุคคล รายห้องเรียน และรายบุคคล
          เป้าหมาย
          ก) มีการจัดทำข้อมูลผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง ทั้งรายบุคคล รายห้องเรียน และระดับโรงเรียน โดยครูผู้สอนแต่ละห้อง และสรุปเป็นข้อมูลสาระสนเทศเพื่อพัฒนา และวางแผนอย่างต่อเนื่อง