วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ขออำนวยพรแด่ท่าน



ขออำนวยพรแด่ทุกท่าน 
..........................พรที่ดีย่อมได้แก่ผู้กระทำดี คิดดี พูดดีและทำดี...........................ขอท่านจงได้รับพรจากผู้ใหญ่เพื่อความสุขความเจริญสืบไป

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

" ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ " ทำความดี ชีวิตมีค่า  เมื่อชีวิตมีค่า จึงควรที่เราจะต้องใช้ชีวิตให้สมค่าของชีวิต คือการที่ได้มาเป็นมนุษย์ โดยการทำความดี คือการไม่ทำบาปทั้งปวง  ขออนุโมทนาสาธุการต่อคุณงามความดีที่ทุกท่านกำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน และในปีใหม่ พุทธศักราช 2554 ตลอดปี ขอธรรมคือคุณงามความดีที่ทุกท่านประพฤติแล้วจงนำสุขมาให้แก่ท่าน เทอญ ขออำนวยพร

สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดสระเกศราชวรวิหาร 

"ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขอให้เราทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธหรือแม้แต่นับถือศาสนาอื่น ตั้งใจร่วมกันให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราจงเจริญพระชนมพรรษา ปราศจากพระโรคาพาธ สามารถดำรงพระชนมพรรษาตามที่พระองค์ทรงปรารถนา และขอให้เราทั้งหลายจงตั้งใจเพื่อให้เกิดความสุขสวัสดีแก่ชีวิตของเราทุกๆ คน ขอให้ทุกคนจงมีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ปรารถนาสิ่งใดที่ชอบ ขอให้ความปรารถนานั้นจงพลันสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยทั่วกัน เทอญ



พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

"ขอให้ทุกคนจงทำแต่ความดี จะเดินทางไปไหนมาไหนในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ขออย่าได้ประมาท ถ้าไม่ประมาทจะเป็นการดี แต่ถ้าประมาทก็ไม่ดี  ปีใหม่ปีนี้สิ่งสำคัญขอให้ทุกคนถือศีล 5 ปฏิบัติให้ครบถ้วยบริบูรณ์จะเป็นผลดีกับชีวิตตัวเอง และประชาชนทุกเพศ ทุกวัยไม่ควรห่างวัด เข้าวัดปฏิบัติธรรมเป็นประจำ จะอยู่ที่หนึ่งที่ใดก็ขอให้มีศีลประจำใจ อยู่ในวัดก็ขอให้มีศีลประจำใจ อยู่นอกวัดก็ควรมีศีลประจำใจ จะทำให้เราสุขสบาย  ขอเตือนประชาชนที่ชอบดื่มสุราแล้วขับรถในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประมาทเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ฉะนั้นอย่าได้ประมาท เมาแล้วอย่าประมาท อย่าขับรถ "อย่าประมาทเป็นคนดี คนประเสริฐ เน้อลูกหลานเอ้ย"

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เปิดวันสุดท้ายของปี พุทธศักราช 2553

การเปิดเรียนวันสุดท้ายของปี พ.ศ.  2553 ก่อนที่จะหยุดส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ติดต่อกัน 4 วัน ของโรงเรียนวัดมโนรม มาถึงแล้วในวันนี้ นักเรียนมาโรงเรียนบางตา น่าจะประมาณ ไม่ถึง 50 % นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คงไปเรียนที่ศูนย์ฝึกอาชีพสมเด็จพระเทพฯตามปกติ
มีบางช่วงชั้นและบางห้องเรียนมีนักเรียนมาน้อยมาก มากจนคิดว่า ในประสบการณ์ของการเป็นครูและผู้บริหารโรงเรียน  การที่นักเรียนจะมีค่านิยมในการหยุดเรียนในเทศกาลใด ๆ เป็นพิเศษ เช่นวันตรุษ วันสาร์ท ต่าง ๆ ครูเป็นผู้สร้างค่านิยมอันนั้น  ถ้าเราไม่ใช้ระบบการศึกษาแก้ไขค่านิยม หยุดเรียนในวันลักษณะแบบนี้ เชื่อว่าเด็กจะไม่หยุดเรียนมากมายขนาดนี้  นั่นคือ ครูให้ท่านักเรียน โดยการกระทำวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ให้เด็กรู้สึกว่า วันลักษณะอย่างนี้ นักเรียนจะหยุดเรียนก็ได้  นี่คือสิ่งที่ผมบอกว่าครู "ให้ท่า"
การสร้างค่านิยมลักษณะนี้จึงเป็นสร้างค่านิยมอย่างหนึ่ง ทำให้นักเรียนเป็นผู้ติดความเกียจคร้าน ความไม่รับผิดชอบ ติดความสบาย จนมีนิสัยติดตัวไปถึงเมื่อไปประกอบอาชีพในหน่วยงานต่าง ๆ พอถึงเทศกาลเหล่านี้ก็มีความรู้สึกอย่ากจะลา อยากจะหยุดงาน  ซึ่งถ้าคิดดูดี ๆ แล้ว จำนวนวันหยุดและวันพักผ่อนที่มีอยู่ปัจจุบันมันมากมายเกินพออยู่แล้ว
ฉะนั้นในวันนี้หลายห้องเรียนมีนักเรียนมาเป็นจำนวนมาก นั้นก็แสดงว่า ครูได้เน้นย้ำความสำคัญของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของนักเรียน และไม่สร้างค่านิยมในการหยุดเรียนแบบผิด ๆ  บางชั้นมาจัดเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันนี้ นั้นก็คือการทำที่สมกาลเวลา  แต่บางชั้นดำเนินการจัดงานให้นักเรียนตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้คิดว่าที่นักเรียนขาดเรียนมากในบางห้องบางชั้นในวันนี้  เพราะครูได้มีความพยายามที่จะปิดปัญชีการเรียนของปี พ.ศ. นี้ให้สิ้นสุดตั้งแต่เมื่อวาน นั่นคือการให้ท่ากับนักเรียน จนนักเรียนรู้ทางของครู ซึ่งผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด ก็ถือว่าเป็นการสร้างค่านิยม ที่สร้างคนให้อ่อนแอ ไม่มีความรับผิดชอบ
เรื่องที่สองในวันนี้ได้แก่การจัดสรรเกลี่ยอัตราครูและตำแหน่ง ให้แต่ละช่วงชั้น ซึ่งถือว่าเป็นการมอบหมายงานที่มีการประชุมปรึกษาหารือค่อนข้างชัดเจน มีสาระสำคัญคือ ให้จัดอัตราครูที่ย้ายมาใหม่ เอกภาษาไทย ครูอัตราจ้างเอกภาษาไทย และครูอัตราจ้าง (ไม่ระบุเอก) รวม 3 อัตรา ให้ช่วงชั้นที่ 1 แทนครูจีราวดี และครูอาภารัตน์ ให้  ขยับไปอยู่ในช่วงชั้นที่ 2  หลักการคิดในเรื่องนี้เนื่องจาก อาภารัตน์ เป็นครูสาขาวิทยาศาสตร์ จีราวดี เป็นครูสายคณิตศาสตร์ ควรได้มีโอกาสใช้วิชาเอกให้เหมาะสมกับช่วงชั้นให้มากขึ้น ส่วนครูที่จัดลงสู่ช่วงชั้นที่ 1 เป็นเอกภาษาไทยทั้งคู่ น่าจะเหมาะสำหรับการเรียนการสอนใน ช่วงชั้นที่ 1 เป็นอย่างมาก ส่วนอัตราอื่น ๆ ที่โรงเรียนยังไม่มีผู้มาสมัคร จึงเปิดรับแบบไม่จำกัดสาขา แต่ที่โรงเรียนต้องการมากขณะนี้ ได้แก่ พลศึกษา ดนตรีสากล อังกฤษ ขอให้พวกเราช่วยกันมองหาและประชาสัมพันธ์กันหน่อย
เรื่องที่ 3 วันนี้ช่วง 07.30 -09.00 น.  ได้มีโอกาสไปร่วมงานทำบุญกลางบ้านของชุมชนบ้านทุ่ง ซึ่งได้จัดเป็นประจำในวันนี้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว  ในงานมีการสวดมนต์เย็น ในวันที่ 29 ธ.ค. และถวายภัตตราหารในเช้าวันที่ 30 ธ.ค. เจ้าอาวาสวัดมโนรม พระอาจารย์นิ่ม (พระครูอาทรพัฒนาภิรม) ที่จะรับนิมนต์นับเป็นกิจนิมนต์ประจำปีของท่าน  และในวันนี้ก็ได้มีโอกาสได้พบกับผู้ใหญ่หลายท่าน ในเขตบริการของโรงเรียนวัดมโนรม ได้แก่ท่านอดีตนายกบุญเลิศ น้อมศิลป์ ที่ปรึกษาคณะบริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง คุณวิศิษฐ์ พุทธตรัส ประทานชุมชนบ้านทุ่ง คุณสิทธิชัย ธัญลวณิช อดีตประธานชุมชนวัดมโนรม คุณครูเรียม ชันมโน อตีตครูโรงเรียนวัดมโนรม ปัจจุบันท่านเป็นกรรมการสถานศึกษาด้วย คุณสุวรรณ  จันทร์ไกรทอง คุณสมบูรรณ์ เผือกสะอาด คุณวิมล จันทรพฤก คุณธนโชติ เสคะสูตร คุณสว่าง กลีบบัว ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาทั้งสิ้น  ได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์ เรื่องสำคัญของโรงเรียน หลายเรื่อง ได้แก่ การจัดงานวันเด็กวันที่ื 7 มกราคม 2554 การแจกเงินในโครงการเรียนฟรีเรียนดีอย่างคุณภาพ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5-6 มกราคม 2554  การดำเนินการของโรงเรียนในโครงการโรงเรียนดีประจำตำบล  เป็นต้น  ในวันนี้ท่านอตีตนายกบุญเลิศ น้อมศิลป์ ได้มอบเงินสนับสนุนการจัดงานวันเด็กให้โรงเรียน จำนวน 5000 บาท
10.00  น. ได้นัดหมายผู้ปกครองของนักเรียนป.6 ที่เล่นกันและเกิดเหตุให้บาดเจ็บถูกมีดปลายแหลมแทงที่หน้าท้อง เหตุเกิดตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. ก่อนหน้านี้ในวันเกิดเหตุ คุณครูอุทัยวรรณ ไทรงามได้พานักเรียนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอ่าวอุดมในทันที  ในเรื่องนี้ต้องขอขอบคุณคุณครูอุทัยวรรณ ที่เอาใจใส่และรีบส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยเร็ว  และทางโรงเรียนได้แจ้งเหตุให้ผู้ปกครองนักเรียนทั้งสองฝ่ายมาพบและแจ้งรายละเอียด เพื่อดูแลความปลอดภัย และสวัสดิการอื่น ๆ ที่เป็นสิทธิ์ของนักเรียน  ในวันเกิดเหตุ ผอ.ได้มอบเงินให้กับครอบครัวนักเรียนเพื่อปลอบขวัญในเบื้องต้น จำนวน 2000 บาท ส่วนผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นต้นเหตุให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ ได้ช่วยเงินค่าปลอบขวัญไว้ในเบื้องต้น 1500 บาท  หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้นัดหมายผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายมาเพื่อประนีประนอมในการจ่ายเงินช่วยค่ารักษาพยาบาล และค่าปลอบขวัญแก่นักเรียนที่บาดเจ็บ ผลการเจรจาตกลงว่า ฝ่ายกระทำให้เกิดเหตุจะช่วยค่าใช้จ่ายของนักเรียนที่บาดเจ็บ จำนวน  7000 บาท และนัดหมายนำเงินมาจ่ายให้แก่กันในวันนี้ เวลา 10.00 น. โดยมี ผอ.ร.ร. และครูประจำชั้น คุณครูเอ็นดู เอื้อสว่างพร และครูวราภรณ์ นาบำรุง ร่วมเป็นสักขีพยาน และทำบันทึกข้อความไว้เป็นหลักฐาน สรุปว่าเรื่องก็จบลงด้วยดีโดยความเข้าใจที่ดีของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เรื่องที่ ๔ เรื่องการมอบกระเช้าปีใหม่เพื่อขอบคุณผู้อำนวยการ และคณะอาจารย์ของศูนย์ฝึกอาชีพสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ฯ อ.บางละมง  ด้วยที่เราได้นำนักเรียน ม.3 จำนวน 3 ห้องเรียน ไปใช้บริการโดยฝึกอาชีพที่ ศูนย์ ใน เรื่อง การโรงแรม เสริมสวยสตรี คหกรรม คอมพิวเตอร์ ช่างไฟฟ้า และเกษตรกรรม โดยใช้หลักสูตรของศูนย์ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์แก่นักเรียนมาก เนื่องจากที่นี่มีความพร้อมด้านอาคารสถานที่ สื่อ วัสดุอุปกรณ์ และที่สำคัญคืออาจารย์เฉพาะด้าน  สิ่งที่ทางโรงเรียนรับผิดชอบคือ มอบหมายให้ครูศิวิมล ดูแลติดตามเรื่องความประพฤติของนักเรียน ให้อยู่ในกรอบ ไม่เกเร จนอาจารย์ ออกปากขอยกเลิกการให้บริการแก่โรงเรียนของเรา  การดูแลเรื่องรถรับส่งในวันที่ไปเรียน โดยขอใช้บริการจากรถรับส่งนักเรียนของเทศบาลนครแหลมฉบัง ใช้รถโดยสารนักเรียนขนาด 60 ที่นั่ง 2 คัน และสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้งคนขับรถ คันละ 300 บาท ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ประหยัด และได้ใช้แหล่งเรียนรู้ ที่เป็นแหล่งทรัพยากรที่มีคุณภาพสูงสุดแห่งหนึ่งที่โรงเรียนได้ใช้บริการ  วันนี้จึงเป็นโอกาสที่โรงเรียนจะได้มอบกระเช้าสุขภาพเพื่อเป็นการขอบคุณท่านผอ.ศูนย์ฯ และอาจารย์ในแผนกต่าง ๆ
เรื่องที่ 5 ขอเป็นของแถมเป็นเรื่องสุดท้ายของวันนี้ คือการใช้เสียงตามสายของโรงเรียน สร้างบรรยากาศ ของงานเทศกาลต่าง ๆ ให้เหมาะสม  ตัวอย่างเช่น วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในโรงเรียนของเราก็ควรจะมีเสียงเพลงที่เกี่ยวกับปีใหม่ เช่นพรปีใหม่ เปิดให้มีเสียงเพลงที่แสดงบรรยากาศที่เกี่ยวข้อง  เหมือนกับที่เวลาเราไปเดินบนห้างสพรรพสินค้าในช่วงเทศกาลต่างๆ เมื่อเราไปเดินจะเห็นป้ายโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับเทศกาล  เสียงเพลงที่บ่งบอกเรื่องราว  เราจะตอบตัวเองได้เลยว่านี่ใช่เลยมันมาถึงแล้วนะเทศกาลนี้  ไม่ว่าจะเป็  ปีใหม่ วันสงกรานต์ วันลอยกระทง วันคริสต์มาส วันไหว้ครู วันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น มันจะให้ความรู้สึกและกระตุ้นการเรียนรู้ กระตุ้นการอย่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง  ผมจึงนำเรื่องนี้มาแถมไว้ฝากให้ไปคิด เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มกับวัสดุครุภัณฑ์ที่เราจัดหาจัดสร้างมา และมันมีส่วนร่วมในการทำให้เทศกาลต่างๆ  ในโรงเรียนคึกคักขึ้น ลองทำดูซิ ผมว่ามันเข้าท่าดีนะ

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ลักษณะครูที่นักเรียนชอบ



สวัสดีครับ เรื่องราวของวันนี้  ก็เกิดจากการประมวล ภาพประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในชีวิตของครู  แต่ถ้าเรามาคิดวิเคราะห์ แยกแยะ คิดเชื่อมโยง  สำหรับการจัดการเรียนการสอน การแก้พฤติกรรมต่าง ๆ สำหรับนักเรียน  จะเห็นได้ว่า บางปัญหาที่เหมือนกับเป็นปัญหาโลกแตก  ไม่มีทางแก้ไข ที่จริงแล้วเราอาจจะไม่ต้องใช้ทฤษฎีอะไรมากมาย แต่ขอใช้ จิตวิทยาพื้นฐานง่าย ๆ เพียงคำว่า รู้เรา รู้เขา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง  และหลักการง่าย ๆ คือ ก่อนที่เราจะเปลี่ยน หรือพัฒนาใคร เราก็ควรที่จะเปลี่ยน หรือพัฒนาตัวเองเสียก่อน  วันนี้ผมจึงคิดว่า ถ้าเราเป็นครูที่ได้ใจเด็ก เด็กชอบ เด็กศรัทธา เด็กเชื่อมั่น ในตัวครูแล้ว เรื่องของการพัฒนาเด็กนักเรียน หรือการแก้ปัญหาต่าง ๆ  ที่ยากแสนยากจะง่ายทันที  นั่นคือ ยึดหลักการสอนด้วยใจ( Teacher Mind)  ผมจึงเก็บบทความนี้ ซึ่งมีผู้เขียนไว้ ว่า นักเรียนชอบครูแบบไหน และถ้าครูมีบุคลิกโดยรวมลักษณะนี้  นักเรียนคงเรียนอย่างมีความสุข ส่วนการจะพัฒนา ปรับปรุง ยกระดับเรื่องใดๆ ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องยาก จึงเก็บมาฝากให้ได้นำไปใช้ดูนะครับ

1.   มีความเป็นกันเอง เมื่อสอบถามนักเรียน เกือบจะทุกคนชอบครูที่มีความเป็นกันเอง ให้ความสนิทสนมกับนักเรียนเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง(แต่ไม่ใช่เพื่อนนะ) ความเป็นกันเองจะทำให้นักเรียนกล้าซักถามเมื่อมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเรียนหรือปัญหาส่วนตัว ทำให้มีส่วนช่วยเหลือนักเรียนได้มาก

2.   มีใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่เครียด มีอารมณ์ขันบ้าง จะทำให้นักเรียนรู้สึกสบายใจ โดยเฉพาะธรรมชาติของวิชาที่ยากอยู่แล้วเช่นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ หรือภาษาอังกฤษ เป็นต้น ครูที่มีอารมณ์ขัน ใบหน้ายิ้มแย้มจะช่วยลดความยากของวิชาไปได้มาก ทำให้นักเรียนอยากฟัง อยากติดตาม และอยากเรียน

3.   อุทิศตนและเสียสละเวลาเพื่อศิษย์ ลักษณะในข้อนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของครูเลยทีเดียว ด้วยความแตกต่างระหว่างบุคคลทำให้นักเรียนแต่ละคนเรียนรู้ได้ไม่เท่ากันในเวลาเรียนปกติ แต่ถ้าครูมีเวลาให้เขาเพิ่มขึ้นก็จะทำให้สามารถเรียนทันคนอื่นได้ นักเรียนจึงชอบครูที่เสียสละเวลาให้กับเขา ซึ่งบางคนต้องการมากกว่าคนอื่น เราอาจแบ่งเวลาที่เป็นความสุขสบายส่วนตัว เช่นในช่วงพักกลางวันให้กับนักเรียนเหล่านี้บ้าง ครูบางคนให้เวลาหลังเลิกเรียนอีกช่วงหนึ่ง ช่างน่านิยมยกย่องจริง ๆ

4.   มีความเมตตาต่อศิษย์ และมีความยุติธรรมเอาใจใส่ทุกคนโดยไม่ลำเอียง ลักษณะในข้อนี้ทำให้คิดย้อนหลังไปในอดีตที่เรายังเป็นนักเรียน บางคนมีประสบการณ์อันเลวร้ายที่พบครูขาดความยุติธรรม ทำโทษนักเรียนทั้งห้องเพราะนักเรียนในห้องเพียงคนเดียวทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด หรือมาโรงเรียนทันเวลาสม่ำเสมอ แล้วถูกตัดผม(ที่ครูคิดว่ายาวแล้ว)ในแถว ฯลฯ นักเรียนยังเป็นเด็กเล็กอยู่ย่อมต้องทำผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดา ถ้าครูมีความเมตตาอยู่ในหัวใจ และให้อภัยในความผิดพลาดของนักเรียนได้เสมอ ก็จะสมดั่งที่สังคมยกย่องให้เป็นพรหมของศิษย์

5.   มีวิธีการสอนดี เข้าใจง่าย และคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ลักษณะในข้อนี้ชัดเจนอยู่ในตัวแล้ว เรามีใบประกอบวิชาชีพครูที่มีเกียรติ ได้ผ่านการศึกษาอบรมจากสถาบันระดับสูง ได้เรียนรู้วิธีการสอน ได้ฝึกประสบการณ์สอน ซึ่งวิชาชีพอื่นไม่มี มีความเข้าใจจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นเป็นอย่างดี

6.   แม่นยำในเนื้อหาวิชา มีความมั่นใจ และมีความทันสมัยอยู่เสมอ นักเรียนชอบครูที่มีความรู้ดี โดยเฉพาะในวิชาที่สอน ถ้าเป็นวิชาเอกที่ครูเรียนมาคงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าต้องสอนในวิชาที่ไม่ถนัดก็อาจจะต้องเตรียมการสอนมากหน่อย เพราะไม่ว่าจะสอนระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา ก็เป็นเรื่องที่ครูเคยเรียนมาแล้ว ใช้เวลาทบทวนทำความเข้าใจสักระยะหนึ่งก็คงสอนได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญควรปรับปรุงเนื้อหาวิชาให้ทันสมัยเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่ควรใช้แผนการสอนที่เคยสอนมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วในวันนี้อีกโดยไม่มีการปรับปรุงเนื้อหาหรือวิธีการใหม่ ๆ เลย

ไม่ยากเลยที่จะทำให้นักเรียนชอบใช่ไหมครับ

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ขอชื่นชมกับนักเรียนคนเก่งของโรงเรียนวัดมโนรม ในงานศิลปหัตถกรมนักเรียน

ผลการประกวดแข่งขันของ นักเรียน ของโรงเรียนวัดมโนรมในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 60 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 27 ธันวาคม 2553 นักเรียนของเราสร้างผลงานน่าชื่นชมดังนี้
  • แข่งขันเพลงคุณธรรม ระดับประถมศึกษา  ได้แก่ ด.ญ.อรอนงค์  นาคบุตร  ด.ญ.ศิรประภา หงส์โม่ ด.ญ.อัมพร แซ่จ๋าว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ผู้ดูแล ครูวราภรณ์ นาบำรุง   ได้รับรางวัลระดับ เหรียญเงิน
  • แข่งขันร้องเพลงลูกทุ่ง ระดับประถมศึกษา ด.ช.อภินันท์  ชุชิกุล  ได้รับรางวัลระดับ เหรียญเงิน  และ ด.ญ.ธัญชนก  แก้วแตง   ได้รับรางวัลระดับ เหรียญทอง   ผู้ดูแลนักเรียน นายลิ้ม สนทอง
    • วาดภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์  กราฟฟิค โปรแกรม Paint กลุ่มเด็กพิเศษ ด.ช.ณภัทร เจริญยศ ม.1 และ  ด.ช.จีรศักดิ์  ศรสำแดง ป.3 ร่วมเป็นทีมละ 2 คน ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง     ผู้ดูแลนักเรียน ครูอโนทัย สงวนวงษ์  ครูสมพิศ  ชินวงศ์ และขอขอบคุณที่ต้องขอความช่วยเหลือให้คุณครูจันทนา กิติเวชานนท์  เป็นผู้พานักเรียนจากโรงเรียนไปร่วมแข่งขันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยรถของตนเอง ทำให้ประหยัดและสะดวกกว่าการเช่ารถตู้โดยสารไม่น้อย  
  • ขอชื่นชม ในความสามารถของนักเรียน และ คุณครูที่ดูแลฝึกซ้อม ตลอดจน ขอบคุณครอบครัวของนักเรียนที่ช่วยกันสนับสนุน
  • คุณครูทุกท่านสามารถติดตามผลการแข่งนันที่  http://data1.ay60.net/   หรือ   http://data4.ay60.net/

การจัดงานสังสรรค์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2554

วันนี้มีการนำโครงการสานสัมพันธ์วันปีใหม่ของโรงเรียน มาปรึกษาผู้อำนวยการ   จึงรับหลักการในเบื้องต้นและเชิญคณะกรรมการร่วมประชุม ในเวลา 13.30 น.  ณ ห้องประชุมเล็ก มีผลการประชุม แจ้งทุกท่านทราบดังนี้
  1. กำหนดจัดงานในวันที่ 29  ธันวาคม 2553 ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป
  2. ลักษณะของงานก่อนงานเลี้ยง 16.00-18.00 น. จะเป็นการเล่นกีฬากระชับมิตรภาพ ของ 4 ช่วงชั้น ซึ่งแบ่งเป็น 4 สี สีละ 11 คน โดยให้รองสุพรรณ และ จนท.ธุรการ 2 คน ไปเสริมให้ ชช.1  ผอ.และ รองขนิษฐา ไปเสริมกำลังใน ชช.2  ส่วน ชช.3 -4 มีทีมละ 11 คน เท่ากันทุกทีม  จัดการแข่งขัน แชร์บอล ทีมละ 7 คน  ทีมชนะเลิศ มีรางวัล 3000 บาท รองชนะเลิศ 2000 บาท ส่วน ลำดับที่ 3 ไม่มีการชิง จะได้รับรางวัล 1000 บาท
  3. ช่วงงานเลี้ยง จะมีการร้องเพลงของแต่ละช่วงชั้น และเกมส์ ประมาณ 4 เกมส์ มีรางวัลมอบให้ตลอดรายการ
  4. จัดให้มีการมอบรางวัลปีใหม่ของโรงเรียนให้ครูทุกคน  ไม่ขอบอกมูลค่า เพราะไม่อยากให้ร่วมรายการด้วยความโลภ
  5. จัดให้มีการจับรางวัลพิเศษ อีก 10 รางวัล ไม่ขอแจ้งมูลค่ารางวัล เพราะเหตุผลเช่นเดียวกับข้อ 4
  6. จัดให้มีการจับของขวัญที่ครูแต่ละท่านเตรียมมา ตามความสมัครใจ มูลค่า ไม่น้อยกว่า 300 บาท แต่จะมากกว่า เท่าใดไม่จำกัด
  7. ในงานจะเป็นการร่วมสังสรรค์ระหว่างครูและบุคลากรของโรงเรียน และกรรมการสถานศึกษา ทุกคน
นี่เป็นรายละเอียดพอสังเขปซึ่งแจ้งทุกท่านได้ทราบและเตรียมร่วมงาน  จึงหวังว่าจะได้พบทุกท่านในวันงานเลี้ยงสังสรรค์ของพวกเราทุกคน ชาวชมพูเขียว
สำหรับการนมัสการพระครูอาทรพัฒนาภิรม ทางโรงเรียนจะประสานงานขอรับพรจากท่านหลังเปิดเรียนปีหน้า(2554)

การลาที่ไม่สมควรลา

ท่านเคยเป็นอย่างนี้บ้างไหม?

...ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำ
การงานชอบเลี่ยง ส่งเสียงชวนคุย
ทำชุ่ยอยู่เสมอ พอเผลอชอบหลับ
มักกลับบ้านก่อนเวลา มาสายตลอดปี
ธุระมีตลอดวัน อนุสาส์นไม่ฟัง
นั่งไม่ติดที่ งานมีทำไม่สำเร็จ
บำเหน็จจะเอา หน้าเง้าเมื่อไม่ได้.....
ผมทำงานราชการมาหลายปีครับ  ไม่ค่อยได้หยุดราชการ เพราะลาป่วย ลากิจ มากนัก ที่จำเป็นจริง ๆ ปีหนึ่งๆ ไม่น่าเกิน 3 วัน และก็อดชื่นชมสำหรับครูเราหลายท่านที่ ไม่มีวันลาเลยในรอบปี หรือหลายปี ซึ่งแบบนี้ขอยอบรับนับถือจริง ๆ
เหตุที่ยกประเด็นนี้มาพูดคุยกับครูเนื่องจากว่า มีการลาในบางลักษณะที่ส่อเจตนา ให้มองว่าเป็นการย่อหย่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่  คื่อการลาที่เป็นลักษณะดังนี้
  • ตัวอย่างที่ 1 ครู ก. ขอลากิจ ระหว่างวันหยุดที่มีการเชื่อต่อยาว หลายวัน เช่น วันที่ 5 ธ.ค. เป็นวันอาทิตย์ วันที่ 6 ธ.ค. เป็นวันจันทร์  วันที่ 7 -8 ธ.ค. ปฏิบัติงานตามปกติ วันที่ 9 - 19 ธ.ค. หยุดเรียนกรณีพิเศษ  ครู ก. จึงขออนุญาต ลากิจ ในวันที่ 7 -8 ธ.ค.  2 วัน  ทำให้ ครู ก. ได้มีวันหยุดยาว  ตั้งแต่ 4 -19 ธ.ค. คิดตามประสา ผู้ลา คือ คุ้มจริง ๆ กับการลาครั้งนี้
  • ตัวอย่างที่ 2 ครู ข. ทราบว่า วันที่ 31 ธ.ค. - 3 ม.ค. จะหยุดติดต่อกัน 4 วัน ครู ขจึงขอขอลากิจ ตั้งแต่  29 -30 ธ.ค. ก่อนหน้าวัหยุดยาว ทำให้ได้หยุด ปีใหม่ติดต่อกัน 6 วัน  คิดตามประสา ผู้ลา คือ คุ้มจริง ๆ กับการลาครั้งนี้
อีกลักษณะหนึ่งของการ ลาป่วยและลากิจ  มักมีค่านิยมที่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งมักได้ยินอยูประจำ นั่นคือ "จะลาทั้งทีลาทำไมแค่วันเดียว ขาดทุน"  ตัวอย่างเช่น
  • ครู ค. จะขออนุญาตลาป่วย ด้วยมีอาการไข้หวัด หรือ ไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลในวันพุธ แต่ว่า มีความเชื่ออย่างที่ว่า จึงถือโอกาสลาป่วยต่อเนื่อง ในวันพฤหัส - ศุกร์  และติดต่อ เสาร์ อาทิตย์ ด้วยซะเลย 
ลักษณะนี้ละครับ ในความคิดของผมคือ  มันก็ไม่ผิดอะไร  เป็นสิทธิ์ที่คิดว่าทำได้  เมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ ทางราชการจึงมีกฎหมายให้ผู้บังคับบัญชา ขอดู ใบรับรองแพทย์ หรือเอกสารอื่น ๆ หรือทำหนังสือชี้แจงเป็นพิเศษ  เพื่อประกอบการพิจารณา สำหรับผม คำว่าลา ไม่มีคำว่ากำไร  มีแต่คำว่า ขาดทุน ลามากขาดทุนมาก ลาน้อยขาดทุนน้อย   ที่ว่าขาดทุนนี้หมายถึงขาดทุนในความรู้สึกดี ๆ ที่ ผู้บังคับบัญชา มีต่อ ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน
วันนี้จึงอย่างคุยเรื่องนี้กับทุกคน  สำหรับการลา  ผมเคยพูดกับเพื่อนครูเสมอ สำหรับการทำงาน และการลาประเภทต่าง ๆ ของครู   เราต้องสะสมต้นทุนในการทำงานให้มากที่สุด คือการลาให้น้อยที่สุด แม้ว่าเราจะมีสิทธิ์ในการลาประเภทต่าง ๆ ไม่น้อยในแต่ละปี  ผมเคยเห็นครูมาหลายรายที่ประมาทกับการลา คือ ใช้สิทธิ์การลาอย่างฟุ้มเฟือย ไม่เคยนึกถึงงานของตนเองที่รับผิดชอบ เรียกว่า ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำ  อีกทั้งมาโรงเรียนสาย  จัดว่าไม่สะสมต้นทุน ของการทำงานของตนไว้  วันหนึ่ง ถึงคราวเคราะห์กรรมซ้ำกระหน่ำ  วันลาเต็มพิกัด  ปรากฎว่า ลูกป่วย สามีเจ็บ บิดามาดา ต้องดูแล ใกล้ชิด จำเป็นต้องลาเพื่อดูแลครอบครัว  สิทธิ์การลาก็หมดแล้ว ผลเป็นอย่างไรละครับ ปีนั้น ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ผู้บังคับบัญชาเพ่งเล็งเป็นผู้ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติงาน  ผมจึงเอาเรื่องนี้มาคุยเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจตรงกัน  ถ้าเป็นครูแล้ว ไม่เคารพศรัทธาอาชีพของตน  ทำงานแบบซื้อเวลา ลาออกเถอะครับ คนอยากเป็นครูมีเยอะครับ

งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 60 ที่พระนครอยุธยา

วันนี้นักเรียน ของโรงเรียนวัดมโนรม ร่วมประกวดแข่งขันในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 60 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ดังนี้
วันที่ 27 ธันวาคม 2553
เข่งขันเพลงคุณธรรม ระดับประถมศึกษา  ได้แก่ ด.ญ.อรอนงค์  นาคบุตร  ด.ญ.ศิรปประภา หงส์โม่ ด.ญ.อัมพร แซ่จ๋าว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ผู้ดูแล ครูวราภรณ์ นาบำรุง
แข่งขันร้องเพลงลูกทุ่ง ระดับประถมศึกษา ด.ช.อภินันท์  ชุชิกุล และ ด.ญ.ธัญชนก  แก้วแตง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้ดูแลนักเรียน นายลิ้ม สนทอง
วาดภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์  กราฟฟิค โปรแกรม Paint กลุ่มเด็กพิเศษ ด.ช.ณภัทร เจริญยศ ม.1 ด.ช.จีรศักดิ์  ศรสำแดง ป.3 ผู้ดูแลนักเรียน ครูอโนทัย สงวนวงษ์  ครูสมพิศ ชินวงศ์
วันที่ 28 ธันวาคม 2553
การแข่งขันคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน  กลุ่มเด็กพิเศษ ด.ช.กฤษฎิ์  อาจรอด และด.ช.ชนะชล ป้องแก้ว ป.3  ผู้ดูแลนักเรียน ครูอโนทัย สงวนวงษ์  ครูสมพิศ ชินวงศ์
วันที่ 29 ธันวาคม 2553
แข่งขันอ่านออกเสียง กลุ่มเด็กพิเศษ  ด.ช.อภิญญา สระทอง ม.1 ผู้ดูแลนักเรียน ครูอโนทัย สงวนวงษ์
อันที่จริงวันนี้เคยตั้งใจ จะพาคณะครูไปศึกษาดูงาน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากนิทรรศการต่าง ๆ ในงาน ซึ่งคงได้ประโยชน์ไม่น้อย  แต่ด้วยในภาคเรียนนี้มีการหยุดเรียนยาวต่อเนื่องกันหลายครั้ง จนมีความรู้สึกว่ามีวันหยุดที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนมาก  จึงตัดสินใจไม่ทำโครงการพาครูไปเที่ยวชมนิทรรศการ ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคกลางและภาคตะวันออกที่อยุธยาครั้งนี้

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การประเมิน โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้วิชาการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม   2553   โรงเรียนวัดมโนรม  ได้รับการประเมิน โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้วิชาการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จากคณะกรรมการประเมินของจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย  นายมานิต จงพัฒนา นักวิชาการสหกรณ์ นายธีระวีร์ ธีร์ธัญสิริ นักวิชาการสหกรร์ นายสุทิน ยอมดี นายช่าง เครื่องกล สหกรณ์ นางเกตุนภัส อภิสมบูรณ์ ศึกษานิเทศก์ สพป.ชบ.3 และนาย ประสพ ศรีสมบูรณ์ ศึกษานิเทศก์  คณะกรรมการผู้ประเมิน  ให้ความคิดเห็นว่า
  • คณะครู /นักเรียนได้ให้ความร่วมมือในการนำเสนอและการสรุปผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการครบถ้วนทุกกระบวนการ
  • ต้องการให้นักเรียนที่นำเสนอได้ฝึกฝนมากกว่านี้
นี่คือข้อเสนอแนะของคณะกรรมการการประเมิน ในการอภิปรายต่อที่ประชุมเพิ่มเติม จับความได้ว่า กิจกรรมของโครงการนี้ อยู่ที่การที่โรงเรียนได้จัดการเรียนรู้วิชาสหกรณ์ อย่างน่อเนื่องจริงจัง  นั่นคือ ต้องการให้นักเรียนมีความรู้ในเรื่องสหกรณ์อย่งแท้จริง และใช้อุดมการณ์ของการสหกรณ์ในการทำงานร่วมกัน โดยโรงเรียนจัดทำแผนการเรียนรู้วิชาการสหกรณ์ และปฏิบัติ มีผู้รับผิดชอบ มีแผนการสอน จัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมเกม เล่านิทาน เพลง เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ องค์กรและชุมชนมีส่วนร่วม สอดคล้องกับสภาพจริง มีการวัดประเมินผล ผู้ปกครองมีส่วนร่วม  บูรณาการเรียนรู้กับวิชาอื่น นอกจากนี้ โรงเรียนต้องมีการจัดกิจกรรมสหกรณ์ ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์ออมทรัพย์ และมีการดำเนินการครบถ้วนตามกระบวนการสหกรณ์ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียน
ผลการประเมินเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 53 คณะกรรมการได้ แจ้งให้ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า กิจกรรมของโรงเรียนเราได้รับการรับรองว่ามีมาตรฐาน และจะมีการมอบเกียรติบัตร โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้วิชาการสหกรณ์ จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ต่อไป
ในโอกาสนี้จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องรักษาความมีมาตรฐานที่ได้รับ และเพิ่มมูลค่าด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้วิชาการสหกรณ์  ให้สมกับที่ได้รับการรับรอง
ขอขอบคุณคณะทำงานของกิจกรรมสหกรณ์โรงเรียน ที่ได้เพิ่มคุณค่าของงาน เราคงต้องทำอีกหลายเรื่อง แต่คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำต่อไป

นี่จะเป็นเหตุของการล้มเหลวของการจัดการเรียนการสอน จริงหรือ

มีเรื่องของพฤติกรรมการการจัดการเรียนการสอนของครู ซึ่งเป็นเรื่องหลักปฏิบัติพื้นฐานของกรอบภาระหน้าที่ครูผู้สอน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน  นั่นคื่อเรื่องที่ง่ายที่สุดที่ผมต้องการเป็นประเด็นสำคัญวันนี้  คือ ครูเราไม่ค่อยสอนหนังสือ  ผมใช้คำโบราณนะครับ เดี๋ยวจะมีนักเวิฃาการมาบอกว่า ปัจจุบันเค้าไม่สอนหนังสือกันแล้ว เค้าเรียกว่า จัดประสบการณ์ หรือกระบวนการเรียนรู้ อะไรก็แล้วแต่ แต่ผมใช้คำว่า สอนหนังสือแล้วกัน   เหตุการณ์อย่างนี้ไม่ใช่มีอยู่ที่โรงเรียนนี้โรงเรียนเดียวนะครับ    ตั้งแต่ผมมีชีวิตสัมผัสกับความเป็นครูมากว่า 30 ปี ก็ยังได้เห็นและประมวลผลว่าเป็นเช่นว่านี้จริง ๆ  สมัยก่อนนี้เกินว่า 20 ปีมาแล้ว เคยคุยกันในกลุ่มเพื่อนครูวิชาการด้วยกัน มีท่านครูเก่าท่านหนึ่ง บอกว่า ให้ครูสอนนักเรียนให้เต็มที่วันละ 3 ชั่วโมง นักเรียนเก่งตาย (ห่...)    หรือว่าคำนั้นจะเป็นจริง  ผมเป็นผู้บริหารโรงเรียนรัฐบาลมา 20 กว่าปี เป็นหน้าที่ที่สำคัญที่ผู้บริหารโรงเรียนต้องให้ความสำคัญในการกำกับดูแล การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนให้สม่ำเสมอ สิ่งที่พบเห็นเป็นประจำได้แก่
  1. ไม่พบครูอยู่ในห้องเรียน พบว่าครูเข้าห้องสอนช้ามากไม่ตรงเวลา คุณครูไปไหน นักเรียนเสียงดัง พูดจาหยาบคาย ห้องเรียนเลอะเทอะ  ทั้งที่ ครูมาปฏิบัติราชการปกติ  โรงเรียนไม่มีกิจกรรมพิเศษใด ๆ สิ่งที่พบเห็นลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้งมาก จนรู้สึกว่ามันไม่น่าเป็นเช่นนี้
  2. ครูไม่ตรวจการบ้าน สมุดงาน และผลงานของ นักเรียนไม่ได้รับการตรวจ การแนะนำแก้ไขตามควรแก่หลักการจัดการเรียนการสอน
  3. มากกว่า 80 % ที่เห็นคุณครู นั่งอธิบายอยู่ที่โต๊ะครูเป็นหลัก และจัดกิจกรรมให้นักเรียน อ่าน อ่าน และอ่าน มีแต่ร่างครูที่หมดวิญญาณของความเป็นครู  โดยไม่ได้สนใจบริบทแห่งเนื้อหาสาระนั้น มันควรจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบ ที่มีตัวอย่างที่ได้ไปอบรมศึกษามามากมาย แต่ไม่ใส่ใจที่จะนำมาใช้
  4. สภาพห้องเรียน สกปรกเลอะเทอะมาก ไม่พบความมีระเบียบแม้แต่กระทั่งโต๊ะครู
  5. วัสดุครุภัณฑ์ ในห้องเรียน ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งน่าจะเกิดจากการไม่มีข้อตกลงในการใส่ใจดูแล ในสิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องใช้ร่วมกัน
เอาเป็นว่า 5 ข้อข้างต้นที่ได้นำมาเขียนนี้ ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการบอกว่า สิ่งที่ผมเห็นในปัจจุบันมีความเห็น เละเห็นเช่นนี้   ทำให้ย้อนคิด และคิดเลยไปถึงเรื่องหลากหลายในวงการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาครูทั้งระบบ  ทั้งผู้บริหาร ครูผู้สอน การปรับปรุงหลักสูตร การปฏิรูปการศึกษารอบ2 รอบ3 และรอบอะไรก็แล้วแต่   มันคงจะสำหเร็จลงไม่ได้  เพราะสมรรถนะพื้นฐานของความเป็นครุ จิตสำนึกของคร ความรับผิดชอบต่อหน้าที่  และความมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ของทุกคนที่เป็นครู ยังไม่มีมาตรฐานที่ดีพอ
ที่เขียนลงมาทั้งหมดอ่านแล้วก็คงจะเกิดความรู้สึกไปต่าง ๆ นานา ใช่ว่าครูทั้งหมดของที่นี่จะเป็นอย่างที่ยกตัวอย่างมา ข้างต้น  คุณครูที่ดี ตั้งใจสอน รับผิดชอบงาน ที่ผมใช้คำว่า สามารถรักษาหน้าที่ของความเป็นครูอย่างน่าศรัทธา นั่นคือ คุณครุที่มีจริยวัตรปฏิบัติตรงข้ามกับที่ผมยกตัวย่างแล้ว จึงนับว่าเป็นครูที่สมบูรณ์พร้อม และเป็นบุคคลที่ขอเคารพยกย่องชมเชยมา ณ ที่นี้เช่นกัน  จึงไม่ได้เหมารวมว่าจะแย่มากไปเสียทุกคน
จึงต้องการให้พวกเราทุกคน ได้หมั่นตรวจสอบ หน้าที่ของความเป็นครูของทุกคน ว่าจะครองความเป็นครูที่สมบูรณ์  ได้หมั่นตรวจสอบ และจัดลำดับความสำคัญของงาน สร้างมูลค่าเพิ่มของงาน นั่นคือ การเพิ่มมูลค่าศักยภาพในการปฏิบัติงานของตัวเอง เพิ่มมูลค่าของนักเรียน อันเป็นผลผลิตของเรา ด้วยการเสริมสร้างกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ
วันนี้เราจะพัฒนาการศึกษา เราจะต้องสร้างระบบประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็ง นักวิชาการ มือปฏิรูปทั้งหลาย กำลังเอาทฤษฎีการบริหารมากมายสู่การพัฒนาการบริหารและการจัดการเรียนการสอน  ผมเห็นหลายโรงเรียนที่ผู้บริหารตาลุกวาวเมื่อได้ฟังวิทยากรระดับด็อกเตอร์ บอกว่า พร้อมจะไปให้ความรู้เรื่องทฤษฎีการจัดการเรียนการสอนใหม่ ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวนักเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของเรา โดยไม่คิดค่าตัว (ค่าตัวด็อกเตอร์ระดับวิทยากรเชี่ยวชาญงานค่าตัวบรรยาย 6 ชั่วโมง คิดเล่น ๆ แค่ 20,000 บาทต่อวัน)   ผมเห็นผู้บริหารหลายโรงเรียนรีบเข้าไปติดต่อเพื่อจัดการอบรมให้กับครูในโรงเรียนตัวเอง  ผมดูแล้วก็รู้สึกตาลุก ตาวาวเหมือนกัน อยากขอวิทยากรท่านนี้มาจัดการอบรมให้ครูในโรงเรียนบ้าง จะได้ทันสมัยและรู้ก่อนใคร  แต่มาคิดดูแล้ว  เราจะต่อยอดต้นไม้ทั้งที่รากเดิมยังไม่แข็งแรงได้อย่างไร เฮ้อ...

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วันนี้มีอะไรบ้าง

การประชุมของคณะกรรมการจัดงานคริสต์มาศ  วันที่  21  ธันวาคม 2553
1. กลุ่มสาระภาษาอังกฤษเสนอโครงการจัดงานวันคริสต์มาศ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้วัฒนธรรม ทางศาสนาคริสต์บ้างถ้าครูที่สอนสาระสังคมศึกษาจะได้ปูพื้นความรู้ต่าง ๆ ให้นักเรียนก็น่าจะดีมาก หรือจะบูรณาการให้สัมพันธ์กับสระต่าง ๆ ก็จะป็นประโยชน์กับนักเรียน  รูปแบบของกิจกรรมก็จะมีการร้องเพลง Jingle Bell ตอบปัญหาชิงรางวัล แสดงละครภาษาอังกฤษ ประกวดซานต้า แซนตี้ กิจกรรมทำการ์ดอวยพร ดนตรี มโนรมแบน(ครูลิ้มมิวสิค)  เป็นต้น
2. การส่งครูสมพร นิสับสุข ไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนวัดดอนดำรงธรรม  ซึ่งกำหนดให้เดินทางในวันที่ 23 ธันวาคม 2553  กำหนดฤกษ์ออกเดินทางจากโรงเรียน 12.39 น. (ฤกษ์นี้กำหนดเอง เพราะคำว่าเที่ยง หมายถึงตรง ไม่เอนไม่เอียง ก็ถือว่า เวลาเที่ยงจึงเป็นเวลาดี ส่วน 39 นาที คือให้มีเลขก้าว แสดงถึงความก้าวหน้าต่อไป)   สำหรับงานนี้ในช่วงเช้า จะมีการมอบของที่ระลึกที่หน้าเสาธง หลังเคารพธงชาติ เพื่อนพี่น้องที่จะมอบของที่ระลึกให้ในนามช่วงชั้น หรือส่วนตัว ก็จะได้ถือโอกาสมอบกันในตอนเช้าวันนี้ ส่วนในช่วงเที่ยงที่จะร่วมเดินทางไปส่ง ขอให้หัวหน้าช่วงชั้นช่วยดูแลตามความเหมาะสม อย่าให้เกิดความเสียหายต่อการดูแลนักเรียนที่โรงเรียน  และจะไปกันจำนวนเท่าใดขอให้แจ้งผอ.ทราบหน่อย  ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรต้องบอก แต่ใช้จิตสำนึกของครูในการพิจารณา และผอ.จะขอเดินทางไปส่งด้วยนะครับ
3. เรื่องการได้รับบริจาคหนังสือสวดมนต์ จากครอบครัวโยธี ซึ่งมีลูกเรียนอยู่ ป.4/1 นำหรังสือสวดมนต์สำหรับนักเรียนเล่มสีเหลือง เล็กกระทัดรัดเหมาะสำหรับพกพา เนื้อหาภายในเป็นบทสวดมนต์สำหรับนักเรียน ได้มอบให้แจกนักเรียนทุกคน ขอพวกเราช่วยอนุมโทนา (แปลว่ายินดี แสดงความยินดี พลอยชื่นชม)
4. การรับการประเมินกิจกรรมสหกรณ์โรงเรียน   ในวันที่  23  ธันวาคม 2553 เวลา 10.00 น. สืบเนื่องจากโรงเรียนเราได้คัดเลือกจาก สพป.ชบ.3 ให้เป็นโรงเรียนแกนนำการจัดกิจกรรมสหกรณ์ และได้มีการฝึกอบรมครูผู้ดูแลกิจกรรม ตั้งแต่ต้นปี (คุณครูชื่นสุข และ คุณครูจันทนา)   ขณะนี้ผ่านไปครึ่งปีแล้ว คณะกรรมการประเมินสหกรณ์ระดับจังหวัดจึงสอบถามความสมัครใจในการเข้ารับการประเมิน  ซึ่งผมเห็นว่าเมื่อเรามีโอกาสแสดงศักยภาพของโรงเรียน ครู และนักเรียนแล้ว เราก็ไม่ควรจะปล่อยไปเปล่า ๆ หากไม่รับการประเมินในครั้งนี้  เราก็ไม่มีตัวแร่งที่จะทำให้งานมีค่าเพิ่ม หรือมีมูลค่าเพิ่ม จึงแจ้งกับคณะทำงานว่าเราควรที่จะส่งโครงการสหกรณ์เพื่อรับการประเมิน เพื่อวัดผลตัวเอง  ตั้งแต่ตัดสินใจวันนั้น (8 ธันวาคม 53) จนถึงวันนี้ (21 ธันวาคม 53)   ก็ตอบกับตัวเองได้ทันทีว่าดีแล้ว ถูกต้องแล้วที่ตัดสินใจเช่นนี้  เนื่องจากว่า ไว้วางใจให้กับคนทำงานที่ถูกคน เพราะหัวหน้าโครงการสหกรณ์เริ่มทำงานทันทีที่ผมตัดสินใจส่งโครงการเข้าประเมิน  จะสังเกตุว่าผมไม่ได้ใช้คำว่าประกวดนะครับ  เพราะปัจจุบันการประเมินคือการเอามาตรฐานด้านต่าง ๆ เข้ามาจับ เช่นเดียวกับการประเมินคุณภาพภายนอกของสมศ.  การประเมินเพื่อประกันคุณภาพของโรงเรียน ฉะนั้นงานนี้จึงเป็นการยกระดับงานสหกรณ์ของโรงเรียนให้ได้มาตรฐาน  และไม่ได้แข่งขันกับใคร โรงเรียนใด แต่เป้าหมายคือ โรงเรียนวัดมโนรม มีการดำเนินการกิจกรรมการเรียนดารสอนด้านสหกรณืได้มาตรฐาน
5. การรับการประเมินกิจกรรมในโครงการ 5 ส.  โครงการนี้ ปตท. กำหนดวันเข้าประเมิน ในวันที่ 13 มกราคม 2554 โครงการนี้ก็เช่นเดียวกันกับโครงการสหกรณ์  ตามที่ผมได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะเอาจริง และให้ความสำคัญกับโครงการนี้เป็นอย่างมาก  เป็นการยกระดับมาตรฐาน 5 ส.ของโรงเรียนเช่นกัน  เป้าหมายของเราคือมาตรฐานระดับดีมาก ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่ามีโรงเรียนขนาดใหญ่ 10 โรงเรียนแล้วเราได้ยอดเยี่ยมอันดับที่ 1  เราอาจจะอยู่ในระดับที่ 10 แต่เรามีมาตรฐานในระดับดีมาก นี่คือสิ่งที่อยขากให้ทุกท่านมุ่งหวัง และในการเตรียมการนี้โรงเรียนจึงกำหนดจัดกิจกรรม BigCleaning Day ในวันที่ 10 มกราคม 2544
6. การรับสมัครครูอัตราจ้าง จำนวน 5 อัตรา ขณะนี้ตามประกาศโรงเรียนเริ่มดำเนินการรับสมัครแล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 - 22 ธันวาคม 53 และจะยืดเวลารับสมัคร ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2553  คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ที่ได้รับแต่งตั้ง โดยเฉพาะกรรมการออกข้อสอบ จะเรียกเก็บตัวในวันที่  27 ธันวาคม 2553 เวลา 13.00 น. จนถึงเวลาที่ส่งข้อสอบถึงห้องสอบ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2553 ประกาศผลวันที่ 29 ธันวาคม 53 และทำสัญญาในวันที่ 30 ธันวาคม 2553  เริ่มปฏิบัติงานวันที่ 4 มกราคม 2554 ให้ทำสัญญา 9 เดือน 28 วัน ( 4 ม.ค.-30 ก.ย.54)
7. การพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาทั้งระบบ  สืบเนื่องจาก สพฐ.มีนโยบาย การเบิกจ่ายเงิน SP2 ในในโครงการพัฒนาครูทั้งระบบ ให้เบิกจ่ายให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2553 สพป.ชบ.3 ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา  จัดการพัฒนาครูและผู้บริหารฯ ทั้งระบบ ในวันที่ 25 ธันวาคม 53 ที่ ม.บูรพา  รายชื่อครูที่เข้าอบรมให้ขอดูที่ฝ่ายธุรการ และเวียนหนังสือให้ทราบ
8. การจัดงานวันครู ประจำปี 2554  มีมติที่ประชุมผู้บริหารโรงเรียนครั้งล่าสุด ให้มีการกำหนดการจัดงานรวมกันทั้งแขตในภาคเช้า และแยกกิจกรรมสันทนาการในภาคบ่ายตามเขตอำเภอ  ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ในภาคเช้า และกิจกรรมในภาคบ่าย คงต้องรอให้มีการประชุมร่วมกันของประธานกลุ่มก่อน (คิดว่าเช่นนั้น)
9. การจัดงานวันเด็กประจำปี 2544 ของโรงเรียน ได้กำหนดจัด ในวันศุกร์ที่ 7  มกราคม 2554 ขณะนี้ได้ดำเนินการออกหนังสือเพื่อขอความสนับสนุน และเชิญผู้มีเกียรติจากหลาย ๆ องค์กรเข้ามามีส่วนให้การสนับสนุน ซึ่งจะเริ่มออกหนังสือเชิญภายในสัปดาห์นี้
10. การร่วมงานศิลปหัตถกรรมครั้งที่ 60 ที่อยุธยา ตอนนี้ไม่มีรายละเอียดในมือนะครับ แต่ได้รับทราบรายละเอียดจากวิชาการโรงเรียน ได้รวบรวมให้ตั้งแต่เช้าแล้ว  แจ้งการดำเนินการดังนี้ รายการแข่งขันวันที่ 27 ธันวาคม  มี 4 รายการ นักเรียนร่วมกิจกรรม 7 คน  ครูผู้ควบคุม 4 คน เห็นสมควรให้จัดเช่าเหมารถตู้ 1 คัน รายการวันที่ 28 - 29  ธันวาคม ได้ขอความอนุเคราะห์ให้คุณครูจันทนา กิติเวชานนท์ ช่วยรับส่งนักเรียนอีกสองวัน ทั้งนี้ได้ประสานงานและได้รับความอนุเคราะห์แล้ว จึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนรายละอียดอื่น ๆ จำนำมาแก้ไขให้ทราบต่อไป

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แม้ว่าจะหยุดเรียนแต่เรื่องงานการศึกษาของมโนรมหยุดไม่ได้

เมื่อวานได้เข้าไปที่โรงเรียนหลังจากไม่ได้เข้ามาหลายวัน เพื่อดูความคืบหน้าในงานซ่อมแซมและปรับปรุงภูมิทัศน์ของโรงเรียน ขณะนี้งานที่อาคารเรียนหลวงพ่อวิรัชและอาคารเรียนตันติวงศ์ งานเสร็จกว่า ร้อยละ ๙๕ แล้ว งานที่อาคาเรียนอาทรพัฒนาภิรมซึ่งปูกระเบื้องขนาดใหญ่ ๖๐ ซม. เสร็จแล้ว ๔ ห้องเรียนที่ชั้น ๔ ช่างกำลังเร่งมือ เพราะงานทุกงานต้องเสร็จก่อน ๒๖ กุมภาพันธ์ ๕๔  เสร็จแล้วดูงานสำรวจรางระบายน้ำรูปตัว V  ซึ่งจะก่อสร้างเพื่อระบายน้ำในสนามฟุตบอล ความยาว ๓๐๐ เมตร และดูจุดสร้างป้ายโรงเรียนใหม่บริเวณรั้วด้านหน้า
ระหว่างปิดภาคเรียนนี้งานที่ดูจะหนักสักหน่อยได้แก่การเตรียมงานสหกรณ์โรงเรียน เพื่อรับการประเมินจากสำหนักงานส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์จังหวัดชลบุรี ซึ่งระมาประเมินกิจกรรมสหกรณ์ของโรงเรียนในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. งานนี้หัวหน้างานสหกรณ์ คุณครูชื่นสุข วุฒิกานนท์ ก็คงต้องเหนื่อยทุกวัน ทั้งที่มีงานต้องปรับปรุงผลงาน วชพ. ต้องส่งภายใน ๖ เดือน แต่ก็บอกว่าของวางไว้ก่อนขอทำเรื่องสหกรณ์ก่อน อย่างนี้แหละครับถือเป็นยอดครู ท่านอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับงานนี้ก็คงเหนื่อยไม่น้อย เพราะวันนี้ ครูอนุชิต สงแพง ต้องดูแลการปลูกผัก ไฮโดรโฟรนิค และ สาละวนอยู่กับเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า รับรองได้ว่าเห็ดดีจริง เพราะมีโอกาสได้ชิมแล้ว จำหน่ายแค่กิโลกรัมละ ๕๐ บาท  แบบนี้คงต้องขยายกิจการให้นักเรียนมีส่วนร่วมให้มากขึ้น 
สหกรณ์มโนรมยุคใหม่ สว่างใสกว่าเดิม



เรือนเพาะเห็ดของสหกรณ์กับครูอนุชิต สงแพง



อีกคนหนึ่งที่ต้องรับภาระหนักด้านกีฬาของโรงเรียนอยู่คนเดียว คือครูประคอง คำประทุม ที่ขณะนี้พาทีมฟุตบอลนักเรียน ๑๒ ปี เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลมิชิลินคัพ ตอนนี้ผ่านเข้ารอบ ๑๒ ทีมเรียบร้อยแล้ว
เรื่องของการย้ายครูผู้สอน มีคำสั่ง รับย้ายนางสาวปอวลี ผลประทุม ตำแหน่งครู ร.ร.วัดบางแหวน อ.ประทิว จังหวัดชุมพร เอกภาษาไทย แทนคุณครูสมพร นิสัยสุข

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การประมิน ๕ ส

วันนี้ เจ้าหน้าที่ จาก คลัง ปตท.เขาบ่อยา แหลมฉบัง โทรแจ้งเรื่องการประเมินโครงการ๕ ส.ของโรงเรียนวัดมโนรม กำหนดในวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๓ และสามารถประสานรายละเอียด กับ คุณประวิทย์ หนังสือฉบับจิงคุรครูจันทนารับมาแล้ว(ตั้งแต่เมือไหร่) โทร.ผู้ประสานงาน 038493733
พอพูดถึงเรื่อง ๕ ส. จึงต้องนำความเดิมมาทบทวน ให้โครงการ ๕ ส. ของโรงเรียนวัดมโนรมก้าวสู่ความสำเร็จ คลิกที่นี่เพื่อดู แนวคิดในการดำเนินโครงการ ๕ ส. ในโรงเรียน