วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เปิดวันสุดท้ายของปี พุทธศักราช 2553

การเปิดเรียนวันสุดท้ายของปี พ.ศ.  2553 ก่อนที่จะหยุดส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ติดต่อกัน 4 วัน ของโรงเรียนวัดมโนรม มาถึงแล้วในวันนี้ นักเรียนมาโรงเรียนบางตา น่าจะประมาณ ไม่ถึง 50 % นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คงไปเรียนที่ศูนย์ฝึกอาชีพสมเด็จพระเทพฯตามปกติ
มีบางช่วงชั้นและบางห้องเรียนมีนักเรียนมาน้อยมาก มากจนคิดว่า ในประสบการณ์ของการเป็นครูและผู้บริหารโรงเรียน  การที่นักเรียนจะมีค่านิยมในการหยุดเรียนในเทศกาลใด ๆ เป็นพิเศษ เช่นวันตรุษ วันสาร์ท ต่าง ๆ ครูเป็นผู้สร้างค่านิยมอันนั้น  ถ้าเราไม่ใช้ระบบการศึกษาแก้ไขค่านิยม หยุดเรียนในวันลักษณะแบบนี้ เชื่อว่าเด็กจะไม่หยุดเรียนมากมายขนาดนี้  นั่นคือ ครูให้ท่านักเรียน โดยการกระทำวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ให้เด็กรู้สึกว่า วันลักษณะอย่างนี้ นักเรียนจะหยุดเรียนก็ได้  นี่คือสิ่งที่ผมบอกว่าครู "ให้ท่า"
การสร้างค่านิยมลักษณะนี้จึงเป็นสร้างค่านิยมอย่างหนึ่ง ทำให้นักเรียนเป็นผู้ติดความเกียจคร้าน ความไม่รับผิดชอบ ติดความสบาย จนมีนิสัยติดตัวไปถึงเมื่อไปประกอบอาชีพในหน่วยงานต่าง ๆ พอถึงเทศกาลเหล่านี้ก็มีความรู้สึกอย่ากจะลา อยากจะหยุดงาน  ซึ่งถ้าคิดดูดี ๆ แล้ว จำนวนวันหยุดและวันพักผ่อนที่มีอยู่ปัจจุบันมันมากมายเกินพออยู่แล้ว
ฉะนั้นในวันนี้หลายห้องเรียนมีนักเรียนมาเป็นจำนวนมาก นั้นก็แสดงว่า ครูได้เน้นย้ำความสำคัญของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของนักเรียน และไม่สร้างค่านิยมในการหยุดเรียนแบบผิด ๆ  บางชั้นมาจัดเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันนี้ นั้นก็คือการทำที่สมกาลเวลา  แต่บางชั้นดำเนินการจัดงานให้นักเรียนตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้คิดว่าที่นักเรียนขาดเรียนมากในบางห้องบางชั้นในวันนี้  เพราะครูได้มีความพยายามที่จะปิดปัญชีการเรียนของปี พ.ศ. นี้ให้สิ้นสุดตั้งแต่เมื่อวาน นั่นคือการให้ท่ากับนักเรียน จนนักเรียนรู้ทางของครู ซึ่งผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด ก็ถือว่าเป็นการสร้างค่านิยม ที่สร้างคนให้อ่อนแอ ไม่มีความรับผิดชอบ
เรื่องที่สองในวันนี้ได้แก่การจัดสรรเกลี่ยอัตราครูและตำแหน่ง ให้แต่ละช่วงชั้น ซึ่งถือว่าเป็นการมอบหมายงานที่มีการประชุมปรึกษาหารือค่อนข้างชัดเจน มีสาระสำคัญคือ ให้จัดอัตราครูที่ย้ายมาใหม่ เอกภาษาไทย ครูอัตราจ้างเอกภาษาไทย และครูอัตราจ้าง (ไม่ระบุเอก) รวม 3 อัตรา ให้ช่วงชั้นที่ 1 แทนครูจีราวดี และครูอาภารัตน์ ให้  ขยับไปอยู่ในช่วงชั้นที่ 2  หลักการคิดในเรื่องนี้เนื่องจาก อาภารัตน์ เป็นครูสาขาวิทยาศาสตร์ จีราวดี เป็นครูสายคณิตศาสตร์ ควรได้มีโอกาสใช้วิชาเอกให้เหมาะสมกับช่วงชั้นให้มากขึ้น ส่วนครูที่จัดลงสู่ช่วงชั้นที่ 1 เป็นเอกภาษาไทยทั้งคู่ น่าจะเหมาะสำหรับการเรียนการสอนใน ช่วงชั้นที่ 1 เป็นอย่างมาก ส่วนอัตราอื่น ๆ ที่โรงเรียนยังไม่มีผู้มาสมัคร จึงเปิดรับแบบไม่จำกัดสาขา แต่ที่โรงเรียนต้องการมากขณะนี้ ได้แก่ พลศึกษา ดนตรีสากล อังกฤษ ขอให้พวกเราช่วยกันมองหาและประชาสัมพันธ์กันหน่อย
เรื่องที่ 3 วันนี้ช่วง 07.30 -09.00 น.  ได้มีโอกาสไปร่วมงานทำบุญกลางบ้านของชุมชนบ้านทุ่ง ซึ่งได้จัดเป็นประจำในวันนี้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว  ในงานมีการสวดมนต์เย็น ในวันที่ 29 ธ.ค. และถวายภัตตราหารในเช้าวันที่ 30 ธ.ค. เจ้าอาวาสวัดมโนรม พระอาจารย์นิ่ม (พระครูอาทรพัฒนาภิรม) ที่จะรับนิมนต์นับเป็นกิจนิมนต์ประจำปีของท่าน  และในวันนี้ก็ได้มีโอกาสได้พบกับผู้ใหญ่หลายท่าน ในเขตบริการของโรงเรียนวัดมโนรม ได้แก่ท่านอดีตนายกบุญเลิศ น้อมศิลป์ ที่ปรึกษาคณะบริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง คุณวิศิษฐ์ พุทธตรัส ประทานชุมชนบ้านทุ่ง คุณสิทธิชัย ธัญลวณิช อดีตประธานชุมชนวัดมโนรม คุณครูเรียม ชันมโน อตีตครูโรงเรียนวัดมโนรม ปัจจุบันท่านเป็นกรรมการสถานศึกษาด้วย คุณสุวรรณ  จันทร์ไกรทอง คุณสมบูรรณ์ เผือกสะอาด คุณวิมล จันทรพฤก คุณธนโชติ เสคะสูตร คุณสว่าง กลีบบัว ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาทั้งสิ้น  ได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์ เรื่องสำคัญของโรงเรียน หลายเรื่อง ได้แก่ การจัดงานวันเด็กวันที่ื 7 มกราคม 2554 การแจกเงินในโครงการเรียนฟรีเรียนดีอย่างคุณภาพ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5-6 มกราคม 2554  การดำเนินการของโรงเรียนในโครงการโรงเรียนดีประจำตำบล  เป็นต้น  ในวันนี้ท่านอตีตนายกบุญเลิศ น้อมศิลป์ ได้มอบเงินสนับสนุนการจัดงานวันเด็กให้โรงเรียน จำนวน 5000 บาท
10.00  น. ได้นัดหมายผู้ปกครองของนักเรียนป.6 ที่เล่นกันและเกิดเหตุให้บาดเจ็บถูกมีดปลายแหลมแทงที่หน้าท้อง เหตุเกิดตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. ก่อนหน้านี้ในวันเกิดเหตุ คุณครูอุทัยวรรณ ไทรงามได้พานักเรียนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอ่าวอุดมในทันที  ในเรื่องนี้ต้องขอขอบคุณคุณครูอุทัยวรรณ ที่เอาใจใส่และรีบส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยเร็ว  และทางโรงเรียนได้แจ้งเหตุให้ผู้ปกครองนักเรียนทั้งสองฝ่ายมาพบและแจ้งรายละเอียด เพื่อดูแลความปลอดภัย และสวัสดิการอื่น ๆ ที่เป็นสิทธิ์ของนักเรียน  ในวันเกิดเหตุ ผอ.ได้มอบเงินให้กับครอบครัวนักเรียนเพื่อปลอบขวัญในเบื้องต้น จำนวน 2000 บาท ส่วนผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นต้นเหตุให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ ได้ช่วยเงินค่าปลอบขวัญไว้ในเบื้องต้น 1500 บาท  หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้นัดหมายผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายมาเพื่อประนีประนอมในการจ่ายเงินช่วยค่ารักษาพยาบาล และค่าปลอบขวัญแก่นักเรียนที่บาดเจ็บ ผลการเจรจาตกลงว่า ฝ่ายกระทำให้เกิดเหตุจะช่วยค่าใช้จ่ายของนักเรียนที่บาดเจ็บ จำนวน  7000 บาท และนัดหมายนำเงินมาจ่ายให้แก่กันในวันนี้ เวลา 10.00 น. โดยมี ผอ.ร.ร. และครูประจำชั้น คุณครูเอ็นดู เอื้อสว่างพร และครูวราภรณ์ นาบำรุง ร่วมเป็นสักขีพยาน และทำบันทึกข้อความไว้เป็นหลักฐาน สรุปว่าเรื่องก็จบลงด้วยดีโดยความเข้าใจที่ดีของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เรื่องที่ ๔ เรื่องการมอบกระเช้าปีใหม่เพื่อขอบคุณผู้อำนวยการ และคณะอาจารย์ของศูนย์ฝึกอาชีพสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ฯ อ.บางละมง  ด้วยที่เราได้นำนักเรียน ม.3 จำนวน 3 ห้องเรียน ไปใช้บริการโดยฝึกอาชีพที่ ศูนย์ ใน เรื่อง การโรงแรม เสริมสวยสตรี คหกรรม คอมพิวเตอร์ ช่างไฟฟ้า และเกษตรกรรม โดยใช้หลักสูตรของศูนย์ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์แก่นักเรียนมาก เนื่องจากที่นี่มีความพร้อมด้านอาคารสถานที่ สื่อ วัสดุอุปกรณ์ และที่สำคัญคืออาจารย์เฉพาะด้าน  สิ่งที่ทางโรงเรียนรับผิดชอบคือ มอบหมายให้ครูศิวิมล ดูแลติดตามเรื่องความประพฤติของนักเรียน ให้อยู่ในกรอบ ไม่เกเร จนอาจารย์ ออกปากขอยกเลิกการให้บริการแก่โรงเรียนของเรา  การดูแลเรื่องรถรับส่งในวันที่ไปเรียน โดยขอใช้บริการจากรถรับส่งนักเรียนของเทศบาลนครแหลมฉบัง ใช้รถโดยสารนักเรียนขนาด 60 ที่นั่ง 2 คัน และสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้งคนขับรถ คันละ 300 บาท ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ประหยัด และได้ใช้แหล่งเรียนรู้ ที่เป็นแหล่งทรัพยากรที่มีคุณภาพสูงสุดแห่งหนึ่งที่โรงเรียนได้ใช้บริการ  วันนี้จึงเป็นโอกาสที่โรงเรียนจะได้มอบกระเช้าสุขภาพเพื่อเป็นการขอบคุณท่านผอ.ศูนย์ฯ และอาจารย์ในแผนกต่าง ๆ
เรื่องที่ 5 ขอเป็นของแถมเป็นเรื่องสุดท้ายของวันนี้ คือการใช้เสียงตามสายของโรงเรียน สร้างบรรยากาศ ของงานเทศกาลต่าง ๆ ให้เหมาะสม  ตัวอย่างเช่น วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในโรงเรียนของเราก็ควรจะมีเสียงเพลงที่เกี่ยวกับปีใหม่ เช่นพรปีใหม่ เปิดให้มีเสียงเพลงที่แสดงบรรยากาศที่เกี่ยวข้อง  เหมือนกับที่เวลาเราไปเดินบนห้างสพรรพสินค้าในช่วงเทศกาลต่างๆ เมื่อเราไปเดินจะเห็นป้ายโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับเทศกาล  เสียงเพลงที่บ่งบอกเรื่องราว  เราจะตอบตัวเองได้เลยว่านี่ใช่เลยมันมาถึงแล้วนะเทศกาลนี้  ไม่ว่าจะเป็  ปีใหม่ วันสงกรานต์ วันลอยกระทง วันคริสต์มาส วันไหว้ครู วันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น มันจะให้ความรู้สึกและกระตุ้นการเรียนรู้ กระตุ้นการอย่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง  ผมจึงนำเรื่องนี้มาแถมไว้ฝากให้ไปคิด เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มกับวัสดุครุภัณฑ์ที่เราจัดหาจัดสร้างมา และมันมีส่วนร่วมในการทำให้เทศกาลต่างๆ  ในโรงเรียนคึกคักขึ้น ลองทำดูซิ ผมว่ามันเข้าท่าดีนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น